Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2893 ข้าปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า
ตอนที่ 2893 ข้าปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ร่างกายของราชันแท้จริงจินผู่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ว่า มาคราวนี้เขาถูกหลี่ชิเย่รวบเอาพลังลมปราณไปทั้งหมด ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ใบหน้าขาวซีด ต้องกินยาเม็ดเซียนไปหลายขวดติดต่อกันจึงทำให้ลมปราณฟื้นคืนมาได้ส่วนหนึ่ง แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ความเสียหายของเขายังคงสาหัสอย่างยิ่ง
ไม่ทราบว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อได้เห็นสภาพเช่นนี้ของราชันแท้จริงจินผู่ ราชันแท้จริงแปดลัคนาคนหนึ่งถึงกับพ่ายแพ้ในลักษณะเช่นนี้ ถ้าหากไม่เป็นเพราะมังกรจรัสทองคำให้ความช่วยเหลือล่ะก็ เขากระทั่งต้องตายอนาถภายใต้เงื้อมมือของหลี่ชิเย่
ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่ไม่ได้ลงมือเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้สำแดงแม้แต่หนึ่งกระบวนท่าด้วยซ้ำ
ลองนึกภาพดู ก่อนหน้านั้นหลี่ชิเย่เคยพูดว่า แค่หนึ่งกระบวนท่าก็สามารถซัดจนราชันแท้จริงจินผู่หมอบได้ เวลานั้นทุกคนยังคงไม่เชื่อ เวลานี้ดูไปแล้วที่หลี่ชิเย่พูดมานั้นหาใช่คำโกหก และไม่ได้อวดดีหลงตัวเอง สิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริงทุกประการ เพียงแต่ทุกคนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา จึงคิดว่าคำพูดที่เป็นความจริงของเขากลายเป็นการคุยโตโอ้อวดไป
ในเวลานี้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างมองตากันและกัน ถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง หลี่ชิเย่ไม่ต้องอาศัยแม้แต่กระบวนท่าเดียวก็สามารถสังหารราชันแท้จริงจินผู่ได้แล้ว ช่างเป็นศักยภาพที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น
เวลานี้ แม้แต่ราชันแท้จริงจินผู่เองก็มีลูกตาดำที่หดตัวลง เขาหนีรอดคราะห์กรรมมาจากทะเลลมปราณที่กว้างใหญ่ไพศาลมาได้ ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่อย่างสิ้นเชิง เข้าใจและซาบซึ้งถึงความน่ากลัวของหลี่ชิเย่โดยสิ้นเชิง
ท่ามกลางทะเลเลือดที่ดั่งคลื่นยักษ์นั่น หลี่ชิเย่คือผู้บงการของโลกทั้งโลก ขณะที่ราชันแท้จริงแปดลัคนาอย่างเขานั้น เมื่ออยู่ท่ามกลางทะเลเลือดที่ไม่มีสิ้นสุดมีความอ่อนแอเสมือนหนึ่งเป็นมดปลวกเท่านั้น ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึงอะไรอย่างนั้น
“คิดจะดูดเลือดของข้า มีเพียงเจ้ากลายเป็นปฐมบรรพบุรุษเท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกใจหายใจคว่ำ แม้แต่ราชันแท้จริงจินผู่ก็ถึงกับหายใจไม่ออก อาจารย์ของเขาปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็คือระดับปฐมบรรพบุรุษ เขาย่อมรู้ว่าระดับปฐมบรรพบุรุษนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ขณะที่เขาในฐานะราชันแท้จริงแปดลัคนามีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ตนเองนั้นไม่มีหวังที่จะได้เป็นถึงระดับปฐมบรรพบุรุษ
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้เรียกคืนลมปราณทั้งหมดของตนแล้ว โดยเขาไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย แม้ว่าก่อนหน้านั้นเคยถูกราชันแท้จริงจินผู่ดูดพลังลมปราณไปเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ว่าเวลานี้ได้ถูกเรียกคืนกลับมาแล้ว และแม้แต่ลมปราณของราชันแท้จริงจินผู่ก็ถูกเขารวบเอามาด้วย
กล่าวได้ว่า คราวนี้ราชันแท้จริงจินผู่ขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังสูญเสียข้าวไปอีกกำมือ ไม่เพียงไม่สามารถดูดเอาลมปราณของหลี่ชิเย่ไปได้แม้แต่น้อยนิด ตรงกันข้ามกลับถูกหลี่ชิเย่รวบเอาลมปราณทั้งหมดของตนไปได้
“ยังมีกลอุบายอะไรอีกหรือไม่?” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง มองดูพวกของราชันแท้จริงจินผู่แวบหนึ่งด้วยท่าทางเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม้สายตาของหลี่ชิเย่จะเพียงกวาดตามองไปตามอารมณ์ พลันทำให้พวกของราชันแท้จริงจินผู่ถึงกับหายใจไม่ออก ต่างก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นกันกับท่าทีลักษณะเช่นนี้ เวลานี้ทุกคนล้วนมองออกว่า แม้แต่ราชันแท้จริงแปดลัคนาอย่างราชันแท้จริงจินผู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่
ลองคิดดู ก่อนหน้านั้นบรรดานักศึกษาเหล่านั้นที่เคยเชิดใส่หลี่ชิเย่ ต่างเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาเหล่านั้นที่เคยพูดจาไม่ให้ความเคารพต่อหลี่ชิเย่ ยิ่งมีเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย ถ้าหากหลี่ชิเย่ฝังแค้นล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาคงแย่แน่ เกรงว่ายากจะหนีความตายได้พ้น
ดังนั้น ในเวลานี้จึงมีนักศึกษาที่มองตากันและกัน และถึงกับมีสีหน้าที่ขาวซีด
ในขณะนี้ ราชันแท้จริงจินผู่มองดูมังกรจรัสทองคำทีหนึ่ง กรงเล็บของมังกรจรัสทองคำถูกสร้างขึ้นมาใหม่แล้ว ยังคงมีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งยิ่ง
ราชันแท้จริงจินผู่ถึงกับมองไปที่ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทอง พวกเขาสามคนก็มองไปที่ราชันแท้จริงจินผู่ในเวลาเดียวกัน
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าในเวลานี้ พวกเขาทั้งสามคนก็ยินดีติดตามและปฏิบัติตามคำสั่งของราชันแท้จริงจินผู่อยู่แล้ว จะอย่างไรเสีย หากว่ากันด้วยเรื่องของกำลังความสามารถแล้วในบรรดาพวกเขาย่อมเป็นราชันแท้จริงจินผู่ที่แข็งแกร่งที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ราชันแท้จริงจินผู่ยังได้ครอบครองมังกรจรัสทองคำ และมังกรจรัสทองคำยังสามารถสั่งการสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ได้ทั้งหมด
“พวกเจ้าทั้งสี่คนเข้ามาพร้อมๆ กันก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยืนมือไพล่หลัง ยิ้มนิดหนึ่งท่าทางตามอารมณ์ยิ่งนัก
พวกของราชันแท้จริงจินผู่ถึงกับหายใจไม่ออกเมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา พวกเขาที่เป็นราชันแท้จริงสาม เทพแท้จริงอีกหนึ่ง เวลานี้นาทีนี้ในสายตาของหลี่ชิเย่เสมือนดั่งมดปลวกอย่างนั้น เหมือนว่าเขาแค่เอามือกวาดออกไปตามอารมณ์ ก็สามารถกวาดล้างพวกเขาจนสิ้นซากอย่างนั้น
กล่าวสำหรับพวกของราชันแท้จริงจินผู่แล้วเรียกว่าส่งผลกระทบต่อพวกเขาไม่น้อยเลยทีเดียว พวกเขามีชาติกำเนิดที่สูงส่ง เกรียงไกรทั่วหล้า แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูยังให้ความชื่นชมพวกเขาเป็นอันมาก กล่าวได้ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะก้าวไปแห่งหนใดก็ได้รับความเคารพนับถือ ต่อให้เจอะเจอกับผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา ก็ไม่กล้าดูแคลนพวกเขาเช่นนี้
มาวันนี้ หลี่ชิเย่กลับมองพวกเขาไม่มีตัวตน ท่าทางที่เอ้อระเหยเหมือนมองพวกเขาเป็นมดปลวก เป็นพวกเขาต่างหากที่มองผู้อื่นเสมือนหนึ่งมดปลวกมาชั่วชีวิต เคยถูกคนอื่นมองว่าเป็นมดปลวกตั้งแต่เมื่อไรกัน? แม้กล่าวสำหรับราชันแท้จริงอย่างพวกเขาแล้ว ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างอยุติธรรมอะไรอย่างนั้น
แต่ว่า แม้ในใจของพวกเขาจะรู้สึกว่ามันช่างอยุติธรรม และยังจนด้วยเกล้าอะไรอย่างนั้น เมื่อหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน ต่อให้พวกเขารู้สึกว่ามันอยุติธรรมก็ได้แต่กลืนมันลงท้องไป
ในเวลานี้พวกเขาเองก็ตระหนักได้ว่า ต่อให้พวกเขาร่วมมือกันสี่คน เกรงว่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่เช่นเดิม
“สหายทั้งหลาย มีความคิดที่สูงส่งเช่นใด?” ในเวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ได้กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
ทันทีที่ราชันแท้จริงจินผู่พูดออกมา พวกราชันแท้จริงเคอะสือต่างมองตาซึ่งกันและกัน ในเวลานี้พวกเขาก็ไม่สามารถเสนอกลอุบายที่สุดยอดในหล้าอะไร เนื่องจากกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่ได้เกินกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้มากทีเดียว
ในเวลานี้ นักศึกษาทั้งหมดต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้มองดูพวกของราชันแท้จริงจินผู่สี่คน ความจริงแล้ว ในเวลานี้หากพวกราชันแท้จริงจินผู่จะหันหลังและหลบหนีไป เกรงว่าก็คงไม่มีนักศึกษาไปเยาะเย้ยพวกเขา
การพานพบกับหลี่ชิเย่ซึ่งเป็นศัตรูที่แข็งแรงเช่นนี้ เมื่อพบกับหลี่ชิเย่ที่เป็นศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ความคิดแรกที่พวกเขาคิดก็คือหันหลังวิ่งหนีไป!
เผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้ แล้ววิ่งหนีก็ใช่จะเป็นเรื่องที่น่าอายอะไร
“ถ้าหากพี่ท่านทั้งสามคิดจะหนีไป น้องไม่เจียมตัวจะคอยระวังหลังให้กับพี่ท่านทั้งสาม” ขณะที่พวกของราชันแท้จริงจินผู่กำลังลังเลอยู่นั้น เทพแท้จริงเป่าหยวนได้กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
คำพูดของเทพแท้จริงเป่าหยวนทำให้พวกของราชันแท้จริงจินผู่ต้องแลกเปลี่ยนสายตาซึ่งกันและกัน พูดตามความเป็นจริง ภายในใจของพวกเขาก็เคยคิดที่จะหนีไป
แต่ทว่า ราชันแท้จริงสามคนถูกคนอื่นเล่นงานจนเสมือนดั่งสุนัขไม่มีเจ้าของวิ่งหนีไป เป็นการทำให้พวกเขาเสียเกียรติอย่างสิ้นเชิง
“ถ้าหากพี่ท่านทั้งสามยังต้องการจะสู้ต่อไป น้องยินดีเป็นกองหน้าต่อสู้อย่างดุเดือดถึงที่สุด ไม่ตายไม่เลิก!” ท่าทางของเทพแท้จริงเป่าหยวนมั่นคงอย่างยิ่ง และกล่าวว่า “มาวันนี้ แม้น้องจะต้องหลั่งเลือดที่นี่ เสียชีวิตที่นี่ก็จะต้องสู้ น้องไม่เจียมตัว จะอาศัยชีวิตตอบแทนบุญคุณของอาวุโสเติ้ง!”
ท่าทีของเทพแท้จริงเป่าหยวนในเวลานี้เรียกว่ามั่นคงอย่างยิ่ง วันนี้แหละที่เขาต้องการสู้กับหลี่ชิเย่กระทั่งตัวตาย หากว่าพวกราชันแท้จริงจินผู่ต้องการหนีไป เขายินดีที่จะคอยสะกัดหลังให้กับพวกของราชันแท้จริงจินผู่ ถ้าหากพวกของราชันแท้จริงจินผู่ต้องการสู้ต่อไป เขาก็ยินดีบุกเข้าไปเป็นคนแรกเพื่อเป็นกองหน้า
ท่าทีเช่นนี้ของเทพแท้จริงเป่าหยวนทำให้พวกของราชันแท้จริงจินผู่ถึงกับยิ้มด้วยความขมขื่น ในเวลานี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะเลื่อมใสศรัทธาดี หรือว่าจนด้วยเกล้าดี
รู้ทั้งรู้ว่าตนเองนั้นสู้ไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าตนเองต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เทพแท้จริงเป่าหยวนยังคงต้องการสู้จนถึงที่สุด อาศัยชีวิตตอบแทนบุญคุณ
ลำพังข้อนี้เทพแท้จริงเป่าหยวนยังคงคู่ควรให้พวกเขาไปให้ความเคารพอยู่แล้ว พวกเขาที่เป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ล้วนแล้วแต่เพื่อความเห็นแก่ตัวของตน แต่ว่า การเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ของเทพแท้จริงเป่าหยวนเป็นเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของเติ้งเหรินเซินเท่านั้นเอง
แม้ว่าการกระทำเช่นนี้ของเทพแท้จริงเป่าหยวนนั้นโง่เขลายิ่งนัก แต่ว่า กลับทำให้ผู้คนไม่อาจไม่เกิดความรู้สึกเลื่อมใสขึ้นมาทันที
ในเวลานี้ พวกของราชันแท้จริงเคอะสือต่างลังเลนิดหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าใครก็มองออกว่า วิธีการที่ดีที่สุดก็คือหนี นี่แหละคือแผนการที่ดีที่สุด
พูดคำพูดที่สุดจะทนก็คือ ในเวลานี้พวกเขาสามารถหนีไปได้ก็ถือเป็นโชคมหันต์แล้ว แน่นอน ก็จะส่งผลให้อำนาจราชันของพวกเขาไม่เหลืออีกเลย ทำให้พวกเขาเสียหน้าไปสิ้น
“พี่ท่านทั้งสามหนีไปก่อน ข้าจะสกัดด้านหลังให้ก็แล้วกัน” เทพแท้จริงเป่าหยวนส่งเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาเมื่อมองเห็นพวกของราชันแท้จริงเคอะสือมีท่าทีลังเล
แม้ว่าแรกทีเดียวเป็นเทพแท้จริงเป่าหยวนที่ยุยงพวกเขาเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ แต่ว่าเมื่อถึงคราวความเป็นความตาย เทพแท้จริงเป่าหยวนยังนับเป็นลูกผู้ชายพอ ยินดีแบกรับภารกิจยิ่งใหญ่นี้ไว้
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องสู้กันจนถึงที่สุดกับหลี่ชิเย่อยู่แล้ว ไม่ตายไม่เลิกรา ดังนั้น เขาเองก็ยินดีที่จะสกัดหลังให้กับพวกราชันแท้จริงจินผู่
“อาจารย์ของข้าได้ถ่ายทอดกลอุบายเอาไว้ เสมือนดั่งท่านมาด้วยตนเอง” ราชันแท้จริงจินผู่ทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าพี่ท่านทั้งสามยินดีที่จะลองหรือไม่?”
“ปราชญ์อัจฉริยะมาด้วยตนเอง…” สิ่งนี้ได้ทำให้ในใจของพวกราชันแท้จริงเคอะสือถึงกับหวั่นไหว เมื่อได้ยินคำพูดของราชันแท้จริงจินผู่
ถ้าหากว่ากลอุบายเช่นนี้เสมือนหนึ่งปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมาด้วยตนเอง มันช่างเป็นกลอุบายที่แข็งแกร่งเช่นใด การลงมือของปฐมบรรพบุรุษ ต่อให้ต้องกวาดล้างหมื่นอาณาจักร ก็ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า
คำพูดของราชันแท้จริงจินผู่พลันจุดประกายแห่งความหวังขึ้นภายในใจของพวกราชันแท้จริงเคอะสือ จะอย่างไรเสีย ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูคือระดับปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่ง กลอุบายของเขาย่อมจะต้องฝืนลิขิตสวรรค์แล้ว
“หากพี่ท่านทั้งสามยินดีเสี่ยงล่ะก็ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพี่ท่านทั้งสามคน” ราชันแท้จริงจินผู่กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
ราชันแท้จริงจินผู่ก็มีใจคิดจะสู้เช่นกัน กล่าวสำหรับเขาแล้วการพ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่เช่นนี้ทำให้ภายในใจของเขาไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
เขาฝึกปรือมาอย่างหนักชั่วชีวิต ผ่านการสู้รบมาอย่างโชกโชน กระทั่งเคยพบกับระดับปฐมบรรพบุรุษด้วยซ้ำ แต่ว่า มาครั้งนี้เป็นการพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดของเขา เขาเกือบจะต้องสูญเสียชีวิตไปกระทั่งยังไม่ได้เห็นแม้แต่กระบวนท่าเดียวของหลี่ชิเย่ด้วยซ้ำ
กล่าวสำหรับราชันแท้จริงแปดลัคนาอย่างราชันแท้จริงจินผู่แล้ว ถือเป็นความอัปยศยิ่งใหญ่ ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่ไม่อยากจะเชื่อและคิดจะสู้กันอีกสักครั้ง ต่อให้ไม่ใช่ตคู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ เขาก็อยากจะสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่สักครั้ง
“ข้ายินดี” เทพแท้จริงเป่าหยวนเป็นคนแรกที่แสดงท่าที กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ไม่ตายไม่เลิก”
“สู้สักครั้งจะเป็นไรไป” ราชันแท้จริงเคอะสือกัดฟัน และกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “การพ่ายแพ้ลักษณะเช่นนี้นับว่าไม่มีความชัดเจน ขอสู้อีกสักครั้ง ต่อให้ต้องพ่ายแพ้ก็ต้องแพ้อย่างชัดเจน แม้ตายจะเป็นไรไป!”
ราชันแท้จริงเคอะสือรู้ตัวว่าตนเองนั้นหาใช่คู่ต่อสู่ของหลี่ชิเย่ แต่ว่า เมื่อถูกหลี่ชิเย่กวาดลงมาเหมือนกวาดใบไม้ กล่าวสำหรับเขาแล้วนับเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง
การที่ต้องพ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่ในลักษณะเช่นนี้ กล่าวสำหรับราชันแท้จริงเคอะสือแล้วก็นับว่าดูจะไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ต่อให้พวกเขาสามารถมีชีวิตเดินออกจากที่นี่ไป เกรงว่าหลี่ชิเย่ก็จะกลายเป็นฝันร้ายของเขา เสมือนดั่งเงาทมิฬที่ครอบคลุมตัวเขาไปตลอดชีวิต
………………………………………………………
Comments