Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2896 พลันจรดพู่กันไร้เทียมทาน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2896 พลันจรดพู่กันไร้เทียมทาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2896 พลันจรดพู่กันไร้เทียมทาน

ทะเลดวงดาวพลิกกลับ กาลเวลาไหลย้อน ในพริบตาเดียวนั่นเองสายน้ำแห่งกาลเวลาพันล้านปีเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่พุ่งเข้าปะทะปราชญ์อัจฉริยะหลันซูด้วยความเร็วที่สูงมาก เพียงพริบตาเดียวก็จะปะทะเข้ากับตัวของเขาแล้ว

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมองดูสายน้ำแห่งกาลเวลาที่พุ่งปะทะเข้ามา สะบัดพู่กันทีหนึ่งเหมือนเป็นการป้ายลบ ได้ยินเสียงซวบบบเสียงหนึ่ง สายน้ำแห่งกาลเวลาที่ไหลย้อนกลับมาพลันมลายหายไปทันที เหมือนสายน้ำแห่งกาลเวลาพันล้านปีทั้งสายทุกป้ายและลบออกไปทันทีอย่างนั้น

สายน้ำแห่งกาลเวลาหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ทิ้งสิ่งใดๆ เหลือเอาไว้อีกด้วยประการเช่นนี้

นักศึกษาทั้งหมดต่างมองดูภาพเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยความงุนงง พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่ามีวิธีการแบบนี้ด้วย

“แบบนี้ก็ได้…” มีนักศึกษาที่มองดูจนเหม่อลอยอย่างสิ้นเชิง เมื่อมองเห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูทำการลบสายน้ำแห่งกาลเวลาทิ้งไปอย่างง่ายดาย และกล่าวว่า “มิเท่ากับว่าหนึ่งพู่กันก็สามารถไร้เทียมทาน”

“ไร้เทียมทานแน่นอนอยู่แล้ว อย่าลืมไปสิ เขาชื่อว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู จรดพู่กันไร้เทียมทาน” มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งผู้หนึ่งกล่าวว่า “จรดพู่กันสะเทือนหวั่นไหว สิ่งนี้กล่าวสำหรับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก”

“ทำลาย…” หลี่ชิเย่ก้าวไปก้าวหนึ่ง หัวเราะเสียงดัง และควงหมัดทุบเข้าไปตรงๆ

ท่าทางลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เรียกได้ว่าหยาบคายและพื้นๆ ไม่ต้องพูดถึงเนื้อหาโดยสิ้นเชิง หนึ่งหมัดที่ทุบเข้ามานั้น คล้ายเป็นท่วงท่าต่อสู้กันของชาวบ้านชาวนาอย่างนั้น ไม่ต้องพูดถึงความลึกซึ้งโดยสิ้นเชิง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องของความสูงส่งงดงาม

แต่ทว่า ด้วยหนึ่งหมัดที่หยาบคายพื้นๆ ทุบเข้ามาเช่นนี้แหละ ทำทะเลดวงดาวแตกละเอียด ภายใต้หนึ่งหมัดที่หยาบคายพื้นๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นสัจธรรมอะไร เคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมเช่นใดก็ดูจะอ่อนแออะไรอย่างนั้น ดูไร้เรี่ยวแรงอะไรอย่างนั้น ทุกอย่างล้วนแตกละเอียดสิ้นท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น

เมื่อต้องเผชิญกับหนึ่งหมัดที่หยาบคายทุบเข้ามา ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูตวัดพู่กันขึ้น พลันที่จรดพู่กันก็คือ ‘ปฐพีเต็มพื้นที่’ !

ตูม ตูม ตูม…ท่ามกลางเสียงตูมตามที่ดังขึ้นเป็นระลอก ผืนแผ่นดินที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาปรากอยู่ตรงหน้าระหว่างปราชญ์อัจฉริยะหลันซูกับหลี่ชิเย่ พลันกลั้นขวางพวกเขาสองคนออกจากกันในทันที

ท่ามกลางผืนแผ่นดินที่กว้างขวางยิ่งและมีความหนายากจะหาใดเทียม ผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลสามารถรองรับสุริยันจันทราและดวงดาว สามารถจุเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เหล่าชั้นฟ้าล้วนแล้วแต่ทำการหมุนเวียนเปลี่ยนผันดำรงชีวิตอยู่บนผืนแผ่นดินนี้

โลกหล้าแห่งนี้ยังจะมีระบบป้องกันใด ของวิเศษใดเทียบได้กับปฐพีเต็มพื้นที่ ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลตรงหน้าได้เล่า? นี่แหละจึงเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งและหนาที่สุดดีที่สุดในหล้า

ปัง…เสียงดั่งสนั่นหวั่นไหว หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ทุบลงมาพลันทุบผืนแผ่นดินจนแตกละเอียด เศษดินเศษหินนับไม่ถ้วนเสมือนดังคลื่นยักษ์ที่พลิกตัวขึ้นมา คล้ายโลกทั้งโลกที่ถูกพลิกกลับขึ้นมาอย่างนั้น

ภาพลักษณะเช่นนี้นับว่าเพียงพอที่จะสั่นคลอนต่อจิตใจของผู้คนได้ เมื่อหนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ทลายผืนแผ่นดินนั้น เสมือนหนึ่งเป็นอุกาบาตรนอกโลกที่พุ่งปะทะเข้ามา พลันยิงทะลุโลกทั้งโลกอย่างนั้น อานุภาพทำลายล้างเช่นนี้นับว่ามีพลังสั่นคลอนมากเหลือเกิน

ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ถ้าหากหนึ่งหมัดลักษณะเช่นนี้ทุบลงไปที่สำนักเจ้าลัทธิใดๆ แคว้นใดๆ ก็ตาม พวกเขาก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตา

กล่าวแบบไม่เป็นการโอ้อวดได้ว่า เกรงว่าสำนักเจ้าลัทธิใดๆ แคว้นใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถต้านกับหนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ดูหยาบคายพื้นๆ ยิ่งหมัดนี้ได้ นี่แหละคือหนึ่งหมัดทำลายล้างหนึ่งแคว้นของแท้

จังหวะที่หลี่ชิเย่ควงหมัดทุบผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลจนละเอียดนั้น นาทีนี้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้สะบัดพู่กันอีกครั้งเขียนอย่างรวดเร็ว เมื่อเขียนจบก็ปรากฏเป็นอักษรสี่ตัว คำว่า ‘ดักซุ่มสิบทิศ’

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อจรดพู่กันเสร็จสิ้นโลกทั้งสิบทิศพลันถูกเปิดออก โลกทั้งสิบทิศมีทางออกอยู่สิบทาง ทางออกทั้งสิบทางได้ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวยิ่ง

ทิศใต้ มีจอมอสูรถือดาบอยู่ ตัวของจอมอสูรมีตัวสูงเป็นหมื่นจ้าง กลืนกินสุริยันจันทรา ด้านหลังของมันมีกองทัพอสูรหมื่นพัน

ทิศเหนือ มีอราชันอสูรยักษาถือง้าวในมือ ด้านหลังของราชันอสูรยักษาคือทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล กองทัพอสูรยักษาที่หลากหลายจำนวนนับล้าน

ทิศตะวันออก มีพญาครุฑที่กางปีกออกมา ยามที่ปีกขนาดยักษ์ของพญาครุฑโบกพัด สามารถพลิกสามแดนขึ้นมาได้ พัดผลกรรม…

ทิศตะวันตกมีมังกรเทพขดตัวยึดครองอยู่ เมื่อมังกรเทพคำรามเสียงยาว ทำเอาสุริยันจันทราดวงดาวสะเทือนจนแตกละเอียด ตัดขาดโชคชะตาสูงสุดทั้งหมด

……

ในพริบตาเดียวนั้นเอง ดักซุ่มสิบทิศ กองทัพนับล้านล้านก็ได้ปิดล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างแน่นหนา เพียงพริบตาเดียวหลี่ชิเย่ก็ตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพที่เกรียงไกร

นักศึกษาทั้งหมดต่างหวาดผวาจนหน้าถอดสีเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแค่จรดพู่กันขีดเขียนอย่างรวดเร็วเท่านั้น ภายใต้พู่กันของเขาก็สามารถระดมกองทัพเกรียงไกรเป็นล้านล้าน

อีกทั้งนี่หาใช่เป็นกองทัพธรรมดา แต่เป็นกองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้า นาทีนี้ได้ปรากฎอยู่ต่อหน้าของทุกคนดั่งเทพนิยาย

“นี่ นี่ นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ” มีนักศึกษาถึงกับขยี้ตาของตน ด้วยเข้าใจว่าตนเองตาลาย เมื่อมองเห็นดักซุ่มสิบทิศ กองทัพนับล้านล้าน

“ปลอมได้ด้วยหรือ?” นักศึกษาที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าส่ายหน้า และกล่าวว่า “กองทัพนับล้านล้านที่เกรียงไกรนี้สามารถบดขยี้เจ้าจนแหลกละเอียดในพริบตา”

วู…ในเวลานี้เสียงสัญญาณดังขึ้นไม่ขาดสาย กองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้านับล้านล้านอันเกรียงไกรได้เข้าสู่สมรภูมิรบโดยพลัน

“ฆ่า…” เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งดังขึ้น กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ บุกเข้าหาหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่พลันจมหายไปภายใต้กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรของกองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้า

จอมอสูรคำรามเสียงยาวดาบยาวในมือได้ฟาดฟันลงมา มองเห็นคลื่นดาบที่ไล่หลังตามกันมาเป็นลูกๆ กองทัพอสูรที่อยู่ด้านหลังก็รุกเข้ามาดั่งน้ำหลากเหล็กกล้าที่เข้าบดขยี้หลี่ชิเย่

ราชันอสูรยักษาคำรามเสียงดัง กระโดดสูงขึ้นไป ง้าวเล่มยาวแทงทะละสามแดน พลันแทงไปที่บริเวณหัวใจของหลี่ชิเย่

พญาครุฑคำรามด้วยความโกรธ ปีกทั้งสองข้างโบกสะบัด พลันทำให้บังเกิดเป็นเพลิงสายฟ้าที่ไม่มีสิ้นสุดเทราดลงมา เพลิงสายฟ้าที่เผาทำลายทุกอย่างพลันปกคลุมตัวหลี่ชิเย่เอาไว้

……

พริบตาเดียวนั่นเอง กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรได้เปิดฉากโจมตีหลี่ชิเย่อย่างชนิดที่เรียกว่าทำลายฟ้าดิน เมื่อดักซุ่มสิบทิศบุกขยี้เข้ามา อย่าว่าแต่หลี่ชิเย่เพียงคนเดียวเลย ต่อให้เป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งก้ต้องถูกกองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรเช่นนี้ทำลายไป

“ช่างน่ากลัวเหลือเกิน กองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้าลักษณะเช่นนี้สามารถทำลายล้างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งได้อย่างสิ้นเชิง!” มองเห็นดักซุ่มสิบทิศ มองเห็นกองทัพปดเทพอสูรมังกรฟ้า กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรที่เปิดฉากโจมตี อานุภาพการทำลายล้างที่สามารถทำลายฟ้าดินได้ ทำให้นักศึกษาทั้งหมดต่างรุ้สึกอกสั่นขวัญแขวน มีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง และนอนเหมือนอัมพาธอยู่กับพื้น

เมื่อกองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้านับล้านล้านอันเกรียงไกรบุกโจมตีเข้ามา สามารถกวาดล้างให้สิ้นซากภายในระยะเวลาอันสั้น กล่าวได้ว่าด้วยกองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรที่น่ากลัวเช่นนี้ สามารถทำลายล้างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งได้ทุกเวลา นักศึกษาเช่นพวกเขาต้านไม่ได้อยู่แล้ว ถูกกองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรเช่นนี้กลืนกินเพียงชั่วพริบตาเดียว

ที่ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าก็คือ กองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้าจำนวนล้านล้านคนนี้ เกิดขึ้นเพียงการยกพู่กัน และจรดพู่กันของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเท่านั้น

ลองนึกภาพดู คนผู้หนึ่งแค่ยกพู่กันและจรดพู่กันลงก็สามารถเรียกหา สั่งการกองทัพนับล้านล้านได้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเช่นใด พู่กันในมือของเขาไม่เพียงสามารถทำลายล้างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง กระทั่งเรียกได้ว่าพู่กันในมือของเขาสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

“ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู…” มีนักศึกษากล่าวพึมพำ นาทีนี้พวกเขาจึงเข้าใจอย่างแท้จริงว่า เพราะอะไรเขาจึงมีมีชื่อว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

“ฆ่า…” เสียงร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งดังก้องฟ้าดิน กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรพลันบุกเข้ามา หลี่ชิเย่เองหาได้หวาดหวั่นไม่ เพียงคำรามเสียงยาวขึ้นมาเท่านั้น

ได้ยินเสียงกระบี่คำรามดังตึง…ภายใต้เสียงคำรามของกระบี่นั้น ตามติดด้วยเสียงตูม…ทะเลกระบี่ที่ดั่งคลื่นยักษ์พลันปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของหลี่ชิเย่

ทะเลกระบี่ที่ไร้ขอบเขต ท่ามกลางทะเลกระบี่ที่ไร้ขอบเขตปรากฏกระบี่ทองคำหนึ่งล้านล้านล้านเล่ม กระบี่ทองคำทุกเล่มล้วนส่งประกายวูบวาบที่แสบลูกตาอยู่ตรงนั้น

ขณะที่กระบี่ทองคำแต่ละเล่มสั่นเทานั้น เสมือนดั่งทำให้กาลเวลา และช่องว่างสั่นไหวไปด้วย

ฉึก ฉึก ฉึก…ในพริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่ทองคำหนึ่งล้านล้านล้านเล่มที่อยู่ในทะเลกระบี่พลันยิงออกไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วของกระบี่ทองคำเหล่านี้รวดเร็วมากเหลือเกิน และกระบี่ทองคำหนึ่งล้านล้านล้านเล่มที่ยิงออกไปอย่างรวดเร็วโดยพลันนั้น มองจากระยะห่างไกล คล้ายเป็นทะเลสีทองพลันก่อเกิดเป็นคลื่นยักษ์ขึ้นมา โหมสาดซัดเข้าไปยังกองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรอย่างรุนแรง

เสียงฉึก ฉึก ฉึก…ดังขึ้น หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก จึงปรากฏเสียงแหวกอากาศของกระบี่ทองคำ หลังจากกระบี่ทองคำที่แหวกอากาศดังขึ้น ก็ได้มองเห็นหัวแต่ละหัวที่ลอยขึ้นสูง ขณะที่หัวลอยสูงขึ้นไปมากนั้น ปรากฏเลือดแต่ละสายที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง

ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรทั้งหมดถูกตัดหัวไปทั้งหมด เห็นเพียงประกายสีทองแวบหนึ่ง หัวก็ลอยขึ้นและตามติดด้วยเลือดที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ภายใต้การโจมตีของทะเลกระบี่ทองคำเช่นนี้ ด้วยความเร็วของมันที่ปราศจากผู้เทียบเทียม กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรยังไม่ทันได้ร้องเสียงน่าเวทนาออกมา หัวของพวกเขาก็ถูกฟันจนขาด

สุดท้าย ได้ยินเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว กองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรล้มลงโดยพร้อมเพรียงกัน สร้างความหวั่นไหวต่อท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ในเวลานี้เลือดสดๆ ได้ไหลนองกลายเป็นแม่น้ำ ศพกองสุมเป็นภูเขา

มองเห็นกองทัพแปดเทพอสูรมังกรฟ้าจำนวนนับล้านล้านที่ถูกตัดหัวไปโดยพลัน ภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนมองดูด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง นี่มันกลายเป็นนรกอเวจีไปแล้วชัดๆ ศพและกระดูกกองสุมดั่งภูเขา เลือดไหลนองเป็นทะเล

อ๊วกกก…นักศึกษาบางคนถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อกับภาพที่น่าสยองเช่นนี้ อดไม่ไหวจนต้องอาเจียนออกมา แม้แต่น้ำดีก็ยังถูกอาเจียนออกมาด้วย

เสียงตูม…ดังสนั่น หลังจากที่ทะเลกระบี่ทองคำได้สังหารกองทัพนับล้านล้านอันเกรียงไกรไปแล้วยังไม่หยุด เสียงที่ดังสนั่นทำลายฟ้าดินจนแตกละเอียด กระบี่ทองคำนับล้านล้านเล่มได้ถล่มสายน้ำแห่งกาลเวลาจนละเอียด ช่องว่างที่ไร้ขอบเขต พลันมุ่งหน้ายิงเข้าใส่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

ทะเลกระบี่ทองคำมันมีความเร็วที่รวดเร็วเหลือเกิน ต่อให้ระยะห่างมากกว่านี้ก็ไม่ใช่ระยะห่าง กระทั่งมันได้ก้าวข้ามกาลเวลาในพริบตาเดียว ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านขวางการโจมตีของทะเลกระบี่ทองคำเอาไว้ได้

ทะเลกระบี่ทองคำมาพร้อมกับเสียงคำราม ทำลายล้างฟ้าดิน สิ่งมีชีวิตทั้งหมด และสิ่งที่ดำรงอยู่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่สั่นเทา ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ภายใต้ทะเลกระบี่ทองคำที่ส่งเสียงคำรามเข้ามา ล้วนดูเล็กจิ๋วอะไรอย่างนั้น มันสามารถทำลายสิ้นในพริบตา

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ต้องขวัญหนีดีฝ่อเมื่อเผชิญหน้ากับทะเลกระบี่ทองคำที่น่ากลัวเช่นนี้ ต่างหลับตาลงไม่กล้าไปมอง และยืนนิ่งเพื่อรอความตาย

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่เผชิญกับทะเลกระบี่ทองคำที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงคำราม ได้จรดพู่กันเขียนอย่างรวดเร็ว ปรากฏเป็นตัวอักษรสี่ตัวว่า ‘หนึ่งเดียวรู้แจ้ง’

ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ขณะที่อักษรสี่ตัวของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเขียนเสร็จ ร่างกายของเขาปรากฎประกายที่แผ่กระจายขึ้นมาทั่วทั้งตัว พริบตาเดียวนั่นเอง ปรากฎประกายที่ไม่มีสิ้นสุดได้ทิ้งตัวลงมาจากท้องฟ้า

……………………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *