Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2897 ใครคือผู้ที่ไร้เทียมทาน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2897 ใครคือผู้ที่ไร้เทียมทาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2897 ใครคือผู้ที่ไร้เทียมทาน

ประกายทิ้งตัวห้อยลงมาจากบนฟ้า เสมือนดั่งเชื่อมต่อไปยังแดนเซียนอย่างนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเองก็บรรลุถึงความเป็นนิรันดร์ เหมือนว่าไม่มีดับสลายเป็นนิรันดร์

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่อาบเอิบอยู่ท่ามกลางประกายดังกล่าว เหมือนว่าได้กลับกลายเป็นผู้ดำรงอยู่ในความเป็นนิรันดร์อย่างนั้น เหมือนว่าต่อให้ชั่วฟ้าดินสลาย ต่อให้ตราบชั่วนิรันดร์ ตัวของเขาล้วนแล้วแต่ไม่เปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้กลายเป็นผู้รู้แจ้งแต่เพียงผู้เดียวท่ามกลางประกายนี้ นี่แหละคือความรู้แจ้งที่ไม่มีวันดับสลายที่แท้จริง

ต่อให้วันเวลาไหลริน กาลเวลาเปลี่ยนแปลงคล้อยเคลื่อน การบดขยี้ล่มสลายของโลกหล้า ที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือความรู้แจ้ง ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยเช่นใด ไม่ว่าจะเป็นศตวรรษใดๆ ความรู้แจ้งก็คือความรู้แจ้ง มันก็คือหนึ่งเดียวชั่วนิรันดร์ มันจะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะยุคสมัย และไม่เปลี่ยนแปลงเพราะสัจธรรม

พลันที่ปลายพู่กันของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่จรดคำว่าหนึ่งเดียวรู้แจ้งเสร็จสิ้น ก็ได้ทำให้ตนเองนั้นกลับกลายเป็นผู้รู้แจ้ง ฝีมือเช่นนี้เรียกว่าฝืนลิขิตสวรรค์สูงสุด

ตูม ตูม ตูมทันใดนั่นเอง ทะเลกระบี่ทองคำได้พุ่งเข้าโจมตีต่อปราชญ์อัจฉริยะหลันซู แต่ทว่ากระบี่ทองคำทั้งหมดที่พุ่งโจมตีเข้ามานั้น ล้วนแล้วแต่ถูกต้านเอาไว้ด้วยประกายที่ลงมาจากท้องฟ้านั่น

เหมือนว่าหนึ่งเดียวรู้แจ้งได้กลายเป็นเสาแห่งแสงที่ไม่ดับสลายเป็นนิรันดร์ ต้านทะเลกระบี่ทองคำที่พุ่งโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

เสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอกได้สั่นคลอนต่อทั่วหล้า ภายใต้การพุ่งเข้าโจมตีที่มีความรวดเร็วทั้งยังมีจำนวนของกระบี่ทองคำนับล้านล้านเล่มของทะเลกระบี่ทองคำเช่นนี้ ช่างเป็นอานุภาพที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น มันคือการทำลายฟ้าดินให้พังพินาศย่อยยับโดยแท้

ภายใต้การพุ่งโจมตีในลักษณะเช่นนี้ ลำพังแค่เสียงที่ชนกระทบกันก็ทำเอานักศึกษาจำนวนมากที่อยู่บนขอบฟ้าได้รับความกระทบกระเทือนจนสลบไป ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ถูกพลังพุ่งโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด

ภายใต้การพุ่งเข้าโจมตีของทะเลกระบี่ทองคำที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็มองออกว่า ถ้าหากมันพุ่งเข้าโจมตีต่อผืนแผ่นดินเมื่อใดล่ะก็ สามารถยิงทะลุพื้นพสุธา ยิงทะลุนรกอเวจีได้

แต่ว่า ภายใต้การปกคลุมของประกายหนึ่งเดียวรู้แจ้งนั้นกลับต้านการพุ่งโจมตีของทะเลกระบี่ทองคำเอาไว้ได้ ทำให้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูยืนตระหง่านอยู่ได้ไม่ล้ม ไม่ดับสลายเป็นนิรันดร์

“แข็งแกร่งมากเหลือเกิน ไม่เสียทีที่เป็นปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นภาพนี้ และกล่าวว่า “ปฐมบรรพบุรุษย่อมเป็นปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงต่อให้แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ ช่วงห่างระหว่างทั้งสองไม่อาจก้าวข้ามได้อยู่แล้ว”

ภายใต้หนึ่งเดียวรู้แจ้งนั้น ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเสมือนดั่งไม่มีดับสลายเป็นนิรันดร์อย่างนั้น มีนักศึกษาถึงกับพูดขึ้นมาว่า “เกรงว่าคราวนี้คนโหดอันดับหนึ่งจะต้องเจอของแข็งแน่นอน เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู”

เสียงตึง…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง จังหวะที่เหล่าผู้คนพูดขาดคำ เสียงกระบี่คำรามดังก้องฟ้ดิน มองเห็นหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กระบี่ทองคำนับล้านล้านเล่มของทะเลกระบี่ทองคำพลันรวมตัวเข้าเป็นหนึ่งเดียวทันที

ได้ยินเสียงกระบี่ดังตึงขึ้นมาเสียงหนึ่ง กระบี่ทองคำคล้ายลอกคราบในพริบตาเดียว ฉับพลันกระบี่ทองคำกลับกลายเป็นกระบี่ทองแดง กระบี่ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเล่มหนึ่งปรากฎภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

กระบี่ทองแดงเล่มนี้ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน เหมือนว่าฟ้าดินก็ไม่เท่าขนาดที่ใหญ่โตของมัน ยามที่มันตั้งอยู่ตรงนั้นเหมือนได้แซงล้ำหน้าฟ้าดินไป ภายใต้ตัวกระบี่ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารของมัน แม้แต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวยังคงแลดูเล็กจิ๋วไปแล้ว

ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ขณะแหงนหน้ามองดูกระบี่ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเล่มนี้แล้ว ถึงกับมีผู้ที่สั่นเทิ้มทีหนึ่ง ด้วยกระบี่ทองแดงลักษณะเช่นนี้เพียงมันล้มตัวลงก็สามารถทับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งจนแหลกละเอียด กระบี่ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารหาที่สุดไม่ได้เช่นนี้ มันไม่ต้องอาศัยกระบวนท่ากระบี่ใดๆ อีกแล้ว ลำพังน้ำหนักตัวของมันก็สามารถล้มทับทุกอย่างจนถล่มลงไปได้อยู่แล้ว

คร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกเสียงแตกร้าวดังขึ้น พริบตาเดียวที่กระบี่ทองแดงปรกฎขึ้นมานั้น แม้แต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ไม่สามารถรองรับกับน้ำหนักที่สุดเปรียบเปรยได้ ถูกมันกดทับจนปรากฎรอยร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมา ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวพร้อมที่จะแตกละเอียดทุกเวลาอย่างนั้น

เสียงกระบี่คำรามดังตึง…กระบี่ทองแดงพลันฟาดฟันลงมา หนึ่งกระบี่ที่สังหารเด็ดขาดฟันใส่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

หนึ่งกระบี่สังหารเด็ดขาดที่ฟาดฟันลงมานั้น มันไม่ต้องอาศัยกระบวนท่า และไม่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงใดๆ แค่ฟันตรงๆ ลงมาก็คือไร้เทียมทาน คือการบดขยี้สังหารทุกสิ่งทุกอย่าง ปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์

น้ำหนักของมันก็คือการสังหารเด็ดขาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน เพียงมันฟาดฟันลงมาตรงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะแตกละเอียด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่กลายเป็นผง

“โอ้แม่จ๋า…” ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ตกใจจนใบหน้าขาวซีด และขาทั้งสองข้างที่ไม่สู้สั่นเทาตลอดเวลา เมื่อมองเห็นกระบี่ทองแดงที่ปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์เล่มนี้ฟาดฟันลงมา

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟาดลงมา พลันบดขยี้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในหล้า ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกลายเป็นฝุ่นผง กาลเวลา ช่องว่างล้วนแล้วแต่แตกละเอียดในพริบตานี้

แม้แต่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่แข็งแกร่งเพียงนี้ ยังคงมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในพริบตาเดียว เขายังคงมีท่าทีที่ตื่นเต้นขึ้นมา พู่กันวิเศษในมือพลันสะบัดเหมือนสาดน้ำหมึกอย่างนั้น

เสียงปัง…ดังสนั่นหวั่นไหว ภายใต้กระบี่ยักษ์ที่หาที่สุดไม่ได้นี้ ในโลกหล้ายังจะมีสิ่งใดสามารถต้านทานเอาไว้ได้ เห็นประกายที่แตกละเอียด หนึ่งเดียวรู้แจ้งก็รองรับกับหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรนี้ไว้ได้ ภายใต้เสียงปังที่ดังสนั่น หนึ่งเดียวรู้แจ้งพลันแตกละเอียด

กระบี่หาที่สุดไม่ได้ พลังที่ไร้เทียมทาน กระบี่ทองแดงยังคงฟาดฟันใส่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูตรงๆ

“น่ากลัวมากเหลือเกิน…” มีนักศึกษาถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความหวาดผวา เมื่อมองเห็นหนึ่งกระบี่ที่ไร้เทียมทานเช่นนี้

ตูม ตูม ตูมในพริบตาเดียวนั้นเอง ทะเลที่กว้างไกลไร้ขอบเขตพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง จากการที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูสลัดน้ำหมึก คลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้าของทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตพุ่งปะทะกระบี่ทองแดง

ภายใต้การจรดพู่กันของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู กลายเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ เข้าราวีกับกระบี่ทองแดงที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าเสมือนดั่งน้ำหมึกที่สาดออกไป

ภายใต้เสียงปัง…ที่ดังสนั่นหวั่นไหว ปรกฎคลื่นยักษ์ทำลายล้างโลกที่ยกตัวขึ้นมา คลื่นยักษ์ที่สูงเทียมฟ้าพลันเข้าท่วมทั่วพื้นที่ แม้จะเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ยังคงถูกกระบี่ทองแดงที่น่ากลัวฟันจนแยกออกมา

ภายใต้กระบี่ทองแดงที่ใหญ่โตมโหฬาร ทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลยังคงถูกฟันจนปลิวกระเด็นออกไป ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น มองเห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป

“โอ้แม่จ๋า…” ผู้คนทั้งหมดตื่นตระหนกถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่อมองเห็นปฐมบรรพบุรุษที่ไร้เทียมทานเฉกเช่นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูยังคงถูกกระแทกจนกระเด็นไปภายใต้กระบี่ยักษ์เล่มนี้ ภาพเช่นนี้หากแพร่ออกไป ช่างเป็นข่าวเขย่าขวัญที่น่าตกตะลึงอะไรอย่างนั้น

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูถูกกระแทกจนตัวลอยนั้น ได้จรดพูดกันเขียน ปรากฏมิติที่ซ้อนทับ พลันปรากฏเป็นระดับชั้นของช่องว่างที่ลึกนับไม่ถ้วนในทันที และจัดการเนรเทศหลี่ชิเย่ไปท่ามกลางเสียงแว้งค์ที่ดังขึ้นนี้

ทันใดนั้น หลี่ชิเย่ถูกเนรเทศไปยังมิติที่ไม่มีสิ้นสุด และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตาเดียว ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่ถูกกระแทกจนปลิวออกไปจึงสามารถทรงตัวเอาไว้ได้ ประกายบนตัวของเขาได้มีการแวบวับทีหนึ่ง เหมือนติดๆ ดับๆ หลังจากผ่านไปชั่วครู่จึงได้นิ่งคงทีอีกครั้ง

ทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้ต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ขาทั้งสองข้างไม่สู้สั่นเทาตลอดเวลา ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่ถูกฟาดฟันจนตัวปลิวออกไปนับว่าน่าสยองขวัญยิ่ง แม้จะไม่ใช่ร่างที่แท้จริงก็ตาม

ถ้าหากว่ากระบี่ที่ฟาดฟันลงมาในลักษณะเดียวกันนี้ จะมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิสักกี่แห่งสามารถรองรับกับหนึ่งกระบี่ที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ได้?

“จบสิ้นกันแล้วรึ?” มีผู้ที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง มองตาซึ่งกันและกัน และรู้สึกขนลุกซู่ในใจ เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกเนรเทศหายตัวไปในช่องว่างที่มีระดับชั้นลึกไม่มีสิ้นสุด

เวลานี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อยากจะให้หลี่ชิเย่หายตัวไปเช่นนี้ เนื่องจากคนโหดอันดับหนึ่งผู้นี้นับว่าน่ากลัวมากเหลือเกิน และชั่วร้ายเหลือเกิน ชั่วร้ายจนทำให้นักศึกษาทุกคนล้วนแล้วแต่หวั่นเกรงในตัวเขาอย่างยิ่ง

“หวังว่าจะจบสิ้นแล้ว เมื่อถูกเนรเทศไปยังช่องว่างที่มีระดับชั้นที่ลึกมากไม่มีสิ้นสุด เกรงว่าจะกลับมาไม่ได้แล้วล่ะ” มีนักศึกษาที่ซุบซิบด้วยความกังขา

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่นักศึกษาผู้นี้เพิ่งจะพูดขาดคำ ช่องว่างแตกละเอียด เห็นคนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากที่ที่แตกละเอียดนั่น ท่าทางเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และมีอารมณ์ที่สงบนิ่งผ่อนคลาย

การก้าวเดินออกมาจากช่องว่างที่มีระดับชั้นที่ลึกไม่มีสิ้นสุดขนาดนั้น เขายังคงมีท่าทางที่ดูสบายอกสบายใจ เหมือนว่าแม้แต่เส้นผมสักเส้นก็ไม่ได้ยุ่งเหยิง

‘คนโหดอันดับหนึ่ง’ มีนักศึกษาถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ก้าวเดินออกมาจากช่องว่างที่มีระดับชั้นที่ลึกไม่มีสิ้นสุดนั่น

ในขณะนี้หลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินออกมาได้ยิ้มนิดหนึ่ง มองดูปราชญ์อัจฉริยะหลันซูทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ก็ดี อุ่นเครื่องทีหนึ่ง นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง เช่นนั้นพวกเราเริ่มจริงๆ เลย”

“ว่าไงนะ? เมื่อครู่แค่อุ่นเครื่อง…” ทุกคนต่างรู้สึกตกใจยิ่งนักเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่งุนงงไปสิ้น

ในเวลานี้นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ไม่ง่ายนักกว่าจะได้สติกลับคืนมา ถึงกับมองหน้ากันและกัน ต่างสูดลมหายใจเข้าทีหนึ่ง

หากว่าการต่อสู้ที่น่ากลัวเมื่อครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้นเองล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว การต่อสู้ที่แท้จริงจะมีอานุภาพที่น่ากลัวเช่นใด? นี่จะทำลายล้างโลกทั้งโลกอย่างนั้นรึ?

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในเวลานี้เองปรากฏประกายบนตัวหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง เห็นเพียงประกายที่ดั่งเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้เต้นวูบวาบอยู่รอบๆ ตัวเขา ในพริบตาเดียวนั่นเอง ตัวเขาเสมือนดั่งผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดที่ถูกเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ครอบคลุมเอาไว้

พริบตาเดียวนั่นเอง แม้ว่าหลี่ชิเย่ยังคงไม่ได้แผ่อานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าขึ้นมา แต่ว่า ขณะที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เต้นวูบวาบทีหนึ่ง เขาก็คล้ายกลับกลายเป็นผู้มีตำแหน่งสูงสุด ท่าทีมีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นใหญ่ ขณะเดียวกันมีท่าทีที่หมางเมินเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ก้มมองดูอดีตปัจจุบัน ทุกอย่างล้วนแลดูช่างไม่คู่ควรจะกล่าวถึงในสายตาของเขา เสมือนหนึ่งเป็นเม็ดทรายในแม่น้ำอย่างนั้น

หัวใจของทุกคนล้วนเต้นกระตุกทีหนึ่งด้วยใจไม่สู้ ต่างรู้สึกหวาดหวาดกลัวเมื่อเห็นหลี่ชิเย่อยู่ในสภาพเช่นนี้

ก่อนหน้านั้น หลี่ชิเย่มีท่าทีที่ อารมณ์ที่สงบนิ่งและผ่อนคลายตลอดมา ไม่ว่าอะไรก็ดูจะไม่ใส่ใจอย่างนั้น กับศัตรูใดๆ ล้วนแล้วแต่มีท่าทีดูเหมือนน่าเบื่อหน่าย เหมือนว่าไม่ได้อาศัยกำลังเลยแม้แต่น้อย

แม้แต่เมื่อครู่ที่สู้กับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูนั้น เขาก็เหมือน อารมณ์ที่สงบนิ่งและผ่อนคลาย เหมือนว่าไม่ได้ออกแรงอะไรอย่างนั้น เมื่อเขาปรากฏท่วงท่าเช่นนี้ในขณะนี้ ทุกคนจึงตระหนะกได้ว่า เวลานี้คนโหดอันดับหนึ่งจึงได้เข้าสู่โหมดต่อสู้ที่แท้จริง เมื่อครู่แค่เล่น เล่นเท่านั้นเอง

“นีคือท่าทางที่เต็มที่แล้วอย่างนั้นรึ?” ไม่ทราบว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่คุกเข่าก้มกราบอยู่ตรงนั้น เมื่อมองเห็นท่าทีหลี่ชิเย่ที่ข้าเป็นผู้สูงสุด กล่าวด้วยท่าทีที่อกสั่นขวัญแขวน

“ไม่ เกรงว่าไม่ใช่ท่าทีของการใช้กำลังเต็มที่” นักศึกษาที่มีกำลังความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเช่นเดียวกัน และกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าเวลานี้เขาแค่ออกแรงนิดเดียวเท่านั้น ก่อนหน้านั้นเขาไม่ใช้กำลังเลยแม้แต่น้อย”

“ท่าน ท่านพูดคำพูดนี้ออกจะคุยโตโอ้อวดไปหน่อยแล้ว อย่าหลอกกันหน่อยเลย” นักศึกษาคนอื่นๆ ถูกคำพูดของเขาทำให้ตกใจจนใบหน้าขาวซีด และกล่าวว่า “แค่นี้ยังแค่ใช้กำลังนิดเดียวล่ะก็ เช่นนั้นแล้วหากเขาใช้กำลังเต็มที่ล่ะก็จะมีลักษณะเช่นใด? หรือสามารถสังหารปฐมบรรพบุรุษอย่างนั้นรึ?”

นักศึกษาผู้นี้จึงหยุดพูดทันที สวนนักศึกษาคนอื่นๆ คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากสามารถสังหรปฐมบรรพบุรุษได้จริงล่ะก็ นั่นตัวเขาดำรงอยู่ในฐานะอะไร? ผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้ออกจะน่ากลัวเกินไปแล้ว

……………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *