ตอนที่ 2911 เด็กมหัศจรรย์สามตาที่กลายเป็นคนโง่

จู่ๆ หลี่ชิเย่และเด็กมหัศจรรย์สามตาพลันขึ้นมาอยู่บนเหยี่ยวห้าสีกะทันหัน ทำเอาราชันแท้จริงหลิงซินตระหนกยิ่งนัก นางยังเข้าใจว่ามีศัตรูมาท้าทาย จึงมีความระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที

ราชันแท้จริงหลิงซินกลับรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นหลี่ชิเย่กับเด็กมหัศจรรย์สามตา แต่ว่า จะมากหรือน้อยนางก็มีความระมัดระวังในตัวหลี่ชิเย่อยู่บ้าง

จะอย่างไรเสีย ชื่อเสียงด้านความโหดของหลี่ชิเย่เป็นที่เลื่องลือ เขาเพิ่งจะสังหารราชันแท้จริงไปสามคน หนึ่งในจำนวนนั้นยังเป็นราชันแท้จริงจินผู่ที่เหนือกว่านางอีกด้วย

การถือกำเนิดของราชันแท้จริงสักคนเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นกำลังความสามารถของราชันแท้จริงคนหนึ่งนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด หลี่ชิเย่จัดการสังหารราชันแท้จริงรวดเดียวถึงสามคน คนเช่นนี้ยกย่องให้เป็น ‘คนโหดอันดับหนึ่ง’ นับว่าไม่เกินเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้น หากจะบอกว่าภายในใจของราชันแท้จริงหลิงซินไม่ได้มีความระมัดระวังในตัวของหลี่ชิเย่นั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

การสังหารราชันแท้จริงรวดเดียวสามคนก็ได้สร้างชื่อเสียงโหดร้ายเป็นที่ฮือฮาไปทั่ว มาวันนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเมื่อเอ่ยถึงคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่

มาวันนี้ ชื่อเสียงของคนโหดอันดับหนึ่งสามารถเคียงคู่กับราชันแท้จริงเซิ่นซวงแห่งสถาบันศึกษาเป่ยเยี่ยนอุดร หมิงหวังฝอแห่งสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิม เทพสงครามจินเปี้ยนแห่งสถาบันศึกษาหลีหมิงทักษิณ และราชันหญิงจื่อหลงแห่งสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพได้แล้ว

“ที่แท้คือคุณชายหลี่กับพี่สามตามาเยือน ขออภัยที่ไม่ทันต้อนรับ ขออภัยที่ไม่ทันต้อนรับ” แม้ว่าราชันแท้จริงหลิงซินจะมีความระมัดระวังในตัวของหลี่ชิเย่ แต่ว่า ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง นางยังคงมีท่าทีที่ไม่ธรรมดา ได้แสดงคารวะแบบจีนต่อหลี่ชิเย่และเด็กมหัศจรรย์สามตา ด้วยท่าทีที่เกรงใจอย่างยิ่ง

สมควรทราบว่า ก่อนหน้านี้หลี่ชิเย่ยังเคยออกปากพูดจาแทะโลมนาง หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น จะมากหรือน้อยก็ต้องฝังแค้นอยู่ในใจ

“ฝ่าบาทหลิงซินเกรงใจไปแล้ว เกรงใจไปแล้ว” เด็กมหัศจรรย์สามตารีบเอ่ยขึ้น ท่าทางดูระมัดระวังตัวมากเกินเหตุ และตื่นเต้นเล็กๆ อยู่บ้าง

สมควรทราบว่า ไม่ว่ากับใครก็ตาม เด็กมหัศจรรย์สามตาก็มีท่าทีที่กระทำการใดๆ ได้อย่างไม่ติดขัดและเป็นอิสระ กระทั่งมีความอวดดีและถืออำนาจบาตรใหญ่ แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันแท้จริงหลิงซินเขากลับดูมีท่าทางที่ระมัดระวังตัวมากเกินเหตุอยู่ไม่น้อย ความอวดดีหยิ่งยโสไม่ทราบว่าหายไปไหน

“พี่สามตาเกรงใจเกินไปแล้ว หากแม้พี่สามตายังคงเรียกน้องว่าเป็น ‘ฝ่าบาท’ ล่ะก็ น้องคงละอายที่จะรับเอาไว้ได้ นี่เป็นการทำให้อายุสั้นนะ” ราชันแท้จริงหลิงซินตอบโดยแฝงไว้ซึ่งรอยยิ้ม ด้วยบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ มีความงดงามต้องตาต้องใจ และกล่าวว่า “หากพี่สามตาไม่รังเกียจล่ะก็ เรียกว่าว่า ‘หลิงซิน’ ก็ได้แล้ว”

ที่ราชันแท้จริงหลิงซินพูดมาก็ถูก ราชันแท้จริงหลิงซินคือราชันแท้จริงเจ็ดลัคนา ขณะที่เด็กมหัศจรรย์สามตาคือคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้น แม้จะกล่าวว่าคงความอมตะตลอดกาลเทียบเคียงได้กับปฐมบรรพบุรุษ แต่คงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นไม่สามารถเทียบเคียงได้กับปฐมบรรพบุรุษอย่างแน่นอน

แต่ทว่า เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาเทียบกับราชันแท้จริงหลิงซินที่เป็นราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาแล้ว ย่อมไม่ต้องสงสัยว่ามีแต่แข็งแกร่งกว่าไม่มีด้อยกว่าอยู่แล้ว

ถ้าหากเด็กมหัศจรรย์สามตาเรียกนางว่า ‘ฝ่าบาท’ ล่ะก็ เป็นความจริงที่ราชันแท้จริงหลิงซินละอายที่จะรับไว้ได้ จะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเป็นด้านพรสวรรค์ หรือกำลังความสามารถ เด็กมหัศจรรย์สามตาก็อยู่เหนือกว่านางมากทีเดียว

“เรื่อง เรื่อง เรื่องนี้จะดีรึ? ” ในเวลานี้เด็กมหัศจรรย์สามตาดูจะประหม่าอยู่บ้าง ความยโสโอหังของเขาล้วนอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย

สมควรทราบว่า เด็กมหัศจรรย์สามตานั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ยากจะหาใดเทียม เรื่องต่างๆ มากมายพลันที่เขาได้สัมผัสก็รู้ได้ทันที กล่าวสำหรับเขาแล้วเรื่องที่ยากเย็นกว่านี้ ลึกซึ้งยอดเยี่ยมกว่านี้ พลันที่เขาได้สัมผัสก็สามารถกระทำการได้อย่างไม่มีติดขัดและอิสระเสรี

แต่ว่า เวลานี้เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันแท้จริงหลิงซิน เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้อย่างไม่ติดขัดและอิสระเสรีได้ พรสวรรค์ที่สุดยอดยากจะหาใดเทียมในหล้าใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ในขณะนี้เด็กมหัศจรรย์สามตาก็คล้ายสมองขึ้นสนิมอย่างนั้น ทำอะไรก็ไม่คล่อง แม้แต่คำพูดก็ยังพูดติดอ่าง

“มีสิ่งใดไม่เหมาะ? ” ราชันแท้จริงหลิงซินอมยิ้มและกล่าวว่า “พรสวรรค์ของพี่สามตาเป็นที่กล่าวชื่นชมของผู้คนทั่วหล้า น้องเองก็เลื่อมใสมานาน วันหน้าหากมีโอกาสขอพี่สามตาได้ให้คำชี้แนะบ้าง”

“เรื่อง เรื่อง เรื่องนี้ดีมาก ดีมาก ข้า ข้า ข้าเกรงว่า เกรงว่าทำได้ไม่ดี กลัว กลัวทำให้ศิษย์ผู้อื่นเสียหาย” ในเวลานี้เด็กมหัศจรรย์สามตาแม้แต่การพูดการจาก็ไม่คล่องเสียแล้ว

เด็กมหัศจรรย์สามตาที่เย่อหยิ่งอวดดีชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศคนนั้นได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในเวลานี้เขาได้กลายเป็นเจ้าหนูที่เซ่อๆ ทึ่มๆ คนหนึ่งไปแล้ว

“พี่สามตาพูดเล่นเก่งจัง ถ้าหากแม้พี่สามตายังทำให้ศิษย์ผู้อื่นเสียหาย ในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถถ่ายทอดได้ดีกว่านี้อีกเล่า? ” ราชันแท้จริงหลิงซินยิ้มมุมปาก แม้ว่านางแค่ยิ้มหวาน แต่ว่าบุคลิกลักษณะที่งดงามของนางในสายตาของเด็กมหัศจรรย์สามตามองว่าเป็นความงดงามยิ่งนัก สยบจิตวิญญาณของผู้คนได้

ราชันแท้จริงหลิงซินยิ้มหวานและกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่า ในโลกนี้เกรงว่าคงไม่มีเคล็ดวิชาใดสามารถทำให้พี่สามตาต้องอับจนแน่”

เรื่อง เรื่องนี้ เรื่องนี้…เด็กมหัศจรรย์สามตามองดูท่าทางของราชันแท้จริงหลิงซินที่ยิ้มหวานมุมปากจนตะลึงไปแล้ว ภายในสมองมีแต่ความว่างเปล่า ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้ในขณะนี้

ราชันแท้จริงหลิงซินเองที่มองเห็นท่าทางที่ดูเซ่อซ่าแล้วรู้สึกน่าสนใจ และยิ้มออกมาด้วยความเข้าใจในความหมาย

“ความฉลาดและสติปัญญาของเจ้าหายไปไหนแล้ว” จังหวะที่เด็กมหัศจรรย์สามตายิ้มแหยๆ จ้องมองดูราชันแท้จริงหลิงซินจนเหม่อลอยนั้น หลี่ชิเย่ส่ายหน้า และใช้ข้อศอกกระทุ้งเขาอย่างแรง

เด็กมหัศจรรย์สามตาพลันได้สติคืนกลับมาจากท่าทางที่ตะลึงงันทันที เมื่อถูกข้อศอกของหลี่ชิเย่กระทุ้งเข้าให้ทีหนึ่ง เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตานึกถึงท่าทางของตนเองแล้ว ทำให้รู้สึกเคอะเขินอย่างยิ่ง สีหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในขณะนี้

สำหรับราชันแท้จริงหลิงซินนั้นนางไม่ได้ถือสา เพียงยิ้มด้วยท่วงท่าที่งดงามและน่าประทับใจ นางที่งดงามเหนือมนุษย์ปุถุชนทั่วไปอยู่แล้ว เมื่อยิ้มด้วยท่วงท่าที่งดงามและน่าประทับใจนับว่าสวยงามยิ่งนัก เด็กมหัศจรรย์สามตาแทบจะถูกนางดึงเร้าวิญญาณไปแล้ว

ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาได้ตะลึงลานอีกครั้งอยู่ตรงนั้น

หลี่ชิเย่รู้สึกจนด้วยเกล้ากับท่าทีการจีบสาวที่แย่มากของเด็กมหัศจรรย์สามตา ใช้ข้อศอกกระทุ้งเข้าให้อีกครั้ง และกล่าวว่า “เจ้าก็พูดอะไรออกมาสักคำสิ ชั่วดีอย่างไรคนอื่นที่เป็นถึงราชันแท้จริงต้องการขอคำชี้แนะจากเจ้าอยู่นะ”

เด็กมหัศจรรย์สามตาได้สติกลับมาอีกครั้ง เขาถึงกับผะอืดผะอมอยู่ไม่น้อย เขามีพรสวรรค์ที่ยากจะหาผู้ใดเทียม มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดยิ่ง เขาสามารถทำอะไรได้อย่างเป็นอิสระเสรีโดยไม่ติดขัดไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าผู้ใดก็ตาม แต่กลับกลายเป็นเสมือนดั่งตอไม้อย่างนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันแท้จริงหลิงซิน

เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะหัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “ความจริงแล้วข้า ข้าโง่เขลายิ่งนัก มีเคล็ดวิชาจำนวนมากก็ใช่ว่าสามารถบรรลุได้ด้วยสายตาเพียงแวบเดียว”

“โง่บ้าโง่บอเจ้าน่ะสิ” หลี่ชิเย่เขกกระบาลของเขาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เวลานี้เจ้าเพิ่งจะมีอายุเท่าไรเอง อายุน้อยนิดก็อยู่ในระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นแล้ว ยังโง่อีกรึ ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าเช่นนี้แล้วยังโง่อยู่อีกล่ะก็ คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นพวกไร้สมองทั้งสิ้น”

หลี่ชิเย่ได้ช่วงชิงโอกาสดีให้กับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว

“ที่คุณชายหลี่พูดมาไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว” ราชันแท้จริงหลิงซินก็กล่าวชมเช่นกัน “พี่สามตาคือระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุดในยุคปัจจุบัน แม้แต่กระบี่เหินเทียนเจียวก็ยังมีอายุมากกว่าพี่สามตาอยู่ครึ่งปี อย่างไรก็ตาม ขณะที่กระบี่เหินเทียนเจียวต้องการทะลุคอขวดของคงความอมตะตลอดกาลนั้น…

“…ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากพระอาจารย์จินกวงด้วยตนเอง จึงสามารถก้าวเท้าเข้าสู่ระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นมาได้ พี่สามตากลับสามารถอาศัยกำลังความสามารถของตน อาศัยอายุที่น้อยที่สุดกลายเป็นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้น ลำพังแค่พรสวรรค์แล้ว เกรงว่าแดนลัทธิเซียนในยุคปัจจุบันคงไม่มีใครสามารถเทียบได้กับพี่สามตาท่านอีกแล้ว”

ที่ราชันแท้จริงหลิงซินพูดมาล้วนเป็นความจริง หาใช่เป็นคำพูดที่โอ้อวด หากว่ากันด้วยเรื่องของพรสวรรค์แล้ว เป็นความจริงที่ว่าในแดนลัทธิเซียนยุคปัจจุบันยากจะหาผู้ใดสามารถทัดเทียมกับเขาได้อีกแล้ว

“เป็นจริงเช่นนี้รึ? ” ภายในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก เมื่อได้รับคำชื่นชมยิ่ง และจริงใจเช่นนี้ของราชันแท้จริงหลิงซิน รู้สึกใจหวิวๆ ล่องลอยอยู่บ้าง

แม้ว่าผู้คนทั่วหล้าล้วนชื่นชมในพรสวรรค์ที่ยากจะหาใดเทียมของเขา มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่แข็งแกร่งกว่าเขาก็ยอมรับว่าพรสวรรค์ของตนสู้เขาไม่ได้ จำนวนผู้ที่ชื่นชมในพรสวรรค์ของเขามีมากมายเหลือเกิน ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากขณะกล่าวชื่นชมพรสวรรค์ของเขานั้น เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่ได้รู้สึกอะไรแต่อย่างใด โดยตัวของเขามองว่ามันเป็นเพียงคำพูดที่แสนจะธรรมดาเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม คำพูดชื่นชมลักษณะเช่นนี้เมื่อออกจากปากของราชันแท้จริงหลิงซินแล้ว มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคำพูดลักษณะเดียวกันนี้เขาเคยได้ยินได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่า เมื่อออกจากปากของราชันแท้จริงหลิงซินด้วยตนเอง มันกลายเป็นคำกล่าวชื่นชมที่ประทับใจมากที่สุดเท่าที่เด็กมหัศจรรย์สามตาได้ยินมา

หลี่ชิเย่รู้สึกจนด้วยเกล้าอยู่บ้างเมื่อมองเห็นท่าทางที่ทึ่มๆ ของเด็กมหัศจรรย์สามตา ส่ายหน้า และกล่าวว่า “ราชันแท้จริงหลิงซินคือราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาคนหนึ่ง หรือคำพูดของนางจะเป็นการหลอกลวงเจ้าอย่างนั้นรึ? ”

คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “หนทางยาวไกล พานพบก็คือวาสนาอย่างหนึ่ง และเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง พวกเจ้าต่างเป็นอัจฉริยะบุคคลด้วยกัน ยากนักที่มีโอกาสพบกันเช่นนี้ ใยไม่นั่งลงจับเข่าคุยกันศึกษาซึ่งกันและกัน ไม่แน่นักอาจจะได้รับผลมากมาย” เขาจงใจสงเคราะห์ระหว่างเด็กมหัศจรรย์สามตากับราชันแท้จริงหลิงซิน

“นี่ นี่จะดีรึ? ” ถึงเวลานี้แล้ว ความฉลาดและสติปัญญาของเด็กมหัศจรรย์สามตาได้สูญสิ้นไปโดยสิ้นเชิงไปแล้ว เสมือนหนึ่งเป็นตอไม้ท่อนหนึ่งอย่างนั้น

“เร็วๆ นี้ข้าเพิ่งบรรลุธรรมมา ในใจยังคงมีข้อฉงนอยู่ หากพี่สามตาไม่รับเกียจขอช่วยชี้แนะทางสว่างให้ด้วย” ราชันแท้จริงหลิงซินก็เป็นผู้ที่ใจกว้างคนหนึ่ง จึงรีบยิ้มกล่าวขึ้นมา

“ลองว่ามาให้ฟัง พวกเราศึกษาด้วยกัน” เด็กมหัศจรรย์สามตาดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง

แม้ว่าฝีมือการจีบสาวของเด็กมหัศจรรย์สามตาจะเก้งก้างจนสุดบรรยาย แต่ว่า เมื่อเอ่ยถึงเรื่องของการสนทนาธรรมพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที จะอย่างไรเสียเขาก็คือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค

“การบรรลุธรรมเมื่อเร็วๆ นี้รู้สึกเหมือนบังเกิดเมฆหมอก มีความงงงันอยู่ในใจ ขอพี่สามตาอาศัยดวงตาทองคำช่วยสอดส่องให้กับข้าสักหน่อย…” ราชันแท้จริงหลิงซินเองก็กล่าวอย่างเปิดเผย

ข้าลองดู…เด็กมหัศจรรย์สามตาย่อมยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ความช่วยเหลือราชันแท้จริงหลิงซิน จึงรีบเปิดดวงตาทองคำขึ้นมา

ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตากับราชันแท้จริงหลิงซินทั้งสองได้ศึกษาธรรมร่วมกัน พวกเขาเอ่ยถึงประสบการณ์ของการบรรลุธรรม ความเข้าใจในเคล็ดวิชา วิธีการฝึกฝน…ในเวลานี้คุยกันชนิดเรียกว่าทะเลกว้างฟ้าสูง

แม้ว่าเด็กมหัศจรรย์สามตาจะมีความระมัดระวังตัวยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าราชันแท้จริงหลิงซิน แต่ว่า เมื่อใดที่เทศนาธรรมแล้ว เขาพลันมีลักษณะท่าทางที่สดชื่นเปล่งปลั่ง พูดน้ำไหลไฟดับไม่มีขาดตอน และมักจะจี้ตรงจุดได้เสมอๆ มีความละเอียดยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง แม้แต่ราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาอย่างราชันแท้จริงหลิงซินก็กล่าวชื่นชมไม่ขาดปากเมื่อได้ฟังแล้ว

จะอย่างไรเสียเด็กมหัศจรรย์สามตาก็คือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลในหล้าคนหนึ่ง เขามีความเข้าใจในสัจธรรมที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร และคืออาณาจักรที่เขาถนัดมากที่สุด ดังนั้น เมื่อใดที่มีการสนทนาธรรมขึ้น สมองที่เบลอๆ ของเขาพลันหายไปทันที เด็กมหัศจรรย์สามตาที่มีพรสวรรค์ยากจะหาใดเทียมก็กลับมาอีกครั้ง

ระหว่างที่พวกเขาทั้งสองคนศึกษาด้วยกัน เรียกได้ว่าเด็กมหัศจรรย์สามตาพูดไม่หยุด ไม่มีการซ่อนเร้นอำพรางในทัศนะของตนที่มีต่อสัจธรรม หยิบยกขึ้นมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับราชันแท้จริงหลิงซินทั้งหมด ทำให้ราชันแท้จริงหลิงซินได้รับประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว

ขณะที่ราชันแท้จริงหลิงซินเองก็ไม่ได้เก็บเอาไว้ นำเอาประสบการณ์จากการศึกษาธรรมของตนออกมาแบ่งปันให้กับเด็กมหัศจรรย์สามตา

……………………………………………………………………………………