Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2912 จีบหญิงเป็นไหม
ตอนที่ 2912 จีบหญิงเป็นไหม
ราชันแท้จริงหลิงซินคือราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาคนหนึ่ง นางเองก็มีพรสวรรค์ที่ยากจะหาผู้ใดเทียม แม้ว่าจะไม่ได้ปราดเปรื่องนักเฉกเช่นเด็กมหัศจรรย์สามตา แต่ว่า ก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก
ดังนั้น การที่ราชันแท้จริงหลิงซินนำเอาประสบการณ์การฝึกปรือของตนออกมาแบ่งปันให้กับเด็กมหัศจรรย์สามตานั้น ทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาได้รับประโยชน์ไม่น้อย ครั้นเด็กมหัศจรรย์สามตารับฟังถึงตอนที่ยอดเยี่ยมแล้วอดที่จะมีสีหน้าที่แดงก่ำ กล่าวชื่นชมด้วยเสียงดัง
ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตากับราชันแท้จริงหลิงซินสองคนได้ทุ่มเทให้กับการสนทนาธรรมเป็นอันมาก ต่างฝ่ายต่างศึกษาจนลืมตนยิ่งนัก เกือบจะลืมเรื่องเวลาไปแล้ว
จะอย่างไรเสียพวกเขามีชาติกำเนิดจากสำนักที่แตกต่างกัน แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ปรกติแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีโอกาสดีเช่นนี้มากอดเข่าคุยกัน ร่วมสนทนาธรรมด้วยกัน
จะอย่างไรเสีย ทุกๆ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ทุกๆ สำนักเจ้าลัทธิล้วนแล้วแต่มีอคติระหว่างสำนักด้วยกันเอง ล้วนแล้วแต่ไม่ยินยอมที่จะเอาเคล็ดวิชาของตน และหรือประสบการณ์การฝึกปรือของตนมาแสดงต่อผู้อื่น ดังนั้น แม้ว่าจะเป็นราชันแท้จริง ก็ยากที่จะมีโอกาสต่างคนต่างเปิดอกคุยกันโดยไม่มีการเก็บงำเอาไว้เช่นนี้
แม้จะกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กมหัศจรรย์สามตา หรือราชันแท้จริงหลิงซิน พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยเคล็ดวิชาของตนออกมาได้ แต่ว่า พวกเขาสามารถพูดถึงประสบการณ์ และความเข้าใจจำนวนมากได้อย่างเต็มที่
เฉกเช่นผู้ซึ่งดำรงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ด้วยความเป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีพรสวรรค์ยากจะหาผู้ใดเทียมเช่นนี้ ประสบการณ์เกี่ยวกับฝึกและความรู้ความเข้าใจก็ถือได้เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาแขนงหนึ่งในหล้าได้ และมีคุณค่าที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ผลจากการบรรลุด้านประสบการณ์จากการฝึกปรือ และความเข้าใจของพวกเขาเอง ไม่ถูกจำกัดโดยอคติของสำนัก
ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาและราชันแท้จริงหลิงซินสองคนต่างคุยกันด้วยความชื่นมื่น คุยกันกระทั่งลืมตนเองไป ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์มากมาย ในเวลานี้พวกเขาเสมือนหนึ่งลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ที่ใดแล้ว ขณะที่เหยี่ยวห้าสีได้ทุกพวกเขามุ่งหน้าไปยังเทียนเชี่ยนอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วที่เสมือนดั่งลำแสงสายฟ้าแลบอย่างนั้น
ระหว่างที่เด็กมหัศจรรย์สามตากำลังสนทนาธรรมและศึกษาด้วยกันนั้น หลี่ชิเย่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ หลับตาพักผ่อนกายา เหมือนหนึ่งนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น
หลังจากที่พูดคุยสนทนาอยู่นานมากแล้ว เด็กมหัศจรรย์สามตากับราชันแท้จริงหลิงซินจึงได้สติกลับมา เมื่อพวกเขาได้สติกลับมานั้น พวกเขาพบว่าเข้าใกล้เทียนเชี่ยนแล้ว
สมควรทราบว่า ระยะทางจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์บินไปถึงเทียนเชี่ยนนั้น ห่างไกลกันมากทีเดียว แม้ว่าเหยี่ยวห้าสีจะบินได้ด้วยความรวดเร็วยากจะหาใดเทียม แต่ว่าก็จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมากมาก อย่างไรก็ตามเวลานี้พวกเขานับว่าได้เข้าใกล้เทียนเชี่ยนมากแล้ว ลองนึกภาพดูว่า พวกเขาได้คุยกันอย่างเปิดอกมานานเท่าไรแล้ว
แต่ทว่า สำหรับพวกเขาสองคนแล้ว เหมือนว่ามันสั้นมากเหลือเกิน
“ราชันแท้จริงหลิงซินยิ้มนิดหนึ่ง ขณะมองไประยะห่างไกลข้างหน้า และกล่าวว่า “จะถึงเทียนเชี่ยนแล้วล่ะ”
เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะมองไปข้างหน้าเช่นกัน แต่สายตาส่วนใหญ่ยังคงอยู่บนตัวของราชันแท้จริงหลิงซินมากกว่า อดที่จะกล่าวว่า “เวลาผ่านไปเร็วมากนะ” กล่าวพลางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มอยู่บ้าง
“นับว่าไม่เร็วแล้วล่ะ” ราชันแท้จริงหลิงซินอมยิ้มและกล่าวว่า “พวกเราสนทนาธรรมมานานมากแล้ว”
“อย่างนั้นรึ? ” เด็กมหัศจรรย์สามตายิ้มแหยๆ และกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าเหมือนแค่ดีดนิ้วทีเดียวเท่านั้น แวบเดียวก็ผ่านไปแล้ว”
แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เขารู้สึกว่าช่วงเวลาที่สนทนาธรรมกับราชันแท้จริงหลิงซินเสมือนดั่งแค่ดีดนิ้วอย่างนั้น แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม สิ่งนี้กล่าวสำหรับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว มันคือช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากที่สุด
ตัวเขาในฐานะที่เป็นอัจฉริยะบุคคล แม้ว่าจะมีช่วงเวลามากมายที่เขามีความสุขจนคลั่งไคร้อย่างนั้น เมื่อได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติธรรม รู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่า การสนทนาธรรมกับราชันแท้จริงหลิงซินกลับให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนอย่างเด็ดขาด กล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว นี่ไม่เพียงเป็นการบรรลุธรรมเท่านั้น
กล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว การได้อยู่กับราชันแท้จริงหลิงซินช่างมีความสุขอะไรอย่างนั้น เป็นอะไรที่ดีอกดีใจอย่างนั้น เหมือนว่าเวลาเป็นนิรันดร์อย่างนั้น เขาอยากให้มันหยุดอยู่ที่นาทีนี้ตลอดไป
เสียดาย กาลเวลาที่มีความสุขนั้นแสนสั้น กาลเวลาที่มีความสุขมักจะแวบเดียวก็ผ่านไปอยู่เสมอๆ
ดังนั้น ภายในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตาเหมือนสูญเสียอะไรไปเมื่อเห็นว่ากำลังจะถึงเทียนเชี่ยนแล้ว เนื่องจากเมื่อถึงเทียนเชี่ยนก็เป็นการบ่งบอกว่าต้องจากกัน ไม่แน่นักอาจไม่ได้พบกันอีก
“มาคราวนี้ น้องได้รับผลประโยชน์มากทีเดียว ขอบคุณพี่สามตาที่ถ่ายทอดให้อย่างเต็มที่” ราชันแท้จริงหลิงซินลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับต่อเด็กมหัศจรรย์สามตา
เด็กมหัศจรรย์สามตารีบแสดงคารวะอย่างลุกลี้ลุกลน และกล่าวว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก เป็น เป็น ท่านที่สอนให้ข้าได้รู้อะไรมากมาย ทำให้การบรรลุธรรมของข้าโปร่งโล่งไปหมด”
ราชันแท้จริงหลิงซินอมยิ้มและพยักหน้าเบาๆ ถือเป็นการส่งความปรารถนาต่อเด็กมหัศจรรย์สามตา เพราะการจากลาได้ใกล้เข้ามาแล้ว
“เจ้าก็ชวนนางมาเป็นแขกที่บ้านสิ” ขณะที่เด็กมหัศจรรย์สามตาจ้องมองราชันแท้จริงหลิงซินด้วยท่าทางทึ่มๆ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีนั้น เสียงที่เอ้อระเหย่ดังมาจากข้างๆ เป็นเสียงของหลี่ชิเย่นั่นเอง
ขณะที่เสียงเอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ดังขึ้นนั้น พลันทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาได้สติกลับมา เขามองดูราชันแท้จริงหลิงซิน แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก เหมือนว่ายากจะปริปากพูดออกมาอย่างนั้น
“พี่สามตาจะเชื้อเชิญข้ารึ? ” ท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกของเด็กมหัศจรรย์สามตา ทำให้ราชันแท้จริงหลิงซินอดที่จะอมยิ้ม
“เรื่อง เรื่อง เรื่องนี้ได้หรือ? ” เด็กมหัศจรรย์สามตาร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เมื่อได้สติกลับมาจึงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าท่านมีเวลาว่างมาเป็นแขกที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถงหรือไม่”
เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่กล้าพูดตรงๆ ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ ว่าให้ราชันแท้จริงหลิงซินไปเป็นแขกที่บ้าน ได้แต่พูดว่าเชิญราชันแท้จริงหลิงซินไปเป็นแขกที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถง
“เมื่อพี่สามตาเป็นผู้เชื้อเชิญ ไหนเลยที่น้องจะกล้าปฏิเสธ วันหน้าหากมีเวลาว่างจะต้องไปที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักครั้ง” ราชันแท้จริงหลิงซินพยักหน้าเบาๆ ตอบตกลงคำเชิญของเด็กมหัศจรรย์สามตา
คราวนี้พลันทำเอาหัวใจของเด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับลิงโลดขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินราชันแท้จริงหลิงซินตอบรับคำเชิญของตน สิ่งนี้ต้องเป็นหนึ่งในคำพูดที่น่าฟังที่สุดที่เขาได้ยินในวันนี้ ในขณะนี้เขามีความสุขแทบจะตัวลอยขึ้นมา
“ดีมาก ดีมาก ถึงตอนนั้นข้าจะต้องให้การต้อนรับการมาเยือนของท่านแน่นอน” เด็กมหัศจรรย์สามตารีบพยักหน้า แทบอยากจะให้วันนั้นมาถึงในทันที
“เจ้าไหนเลยแค่ให้การต้อนรับราชันแท้จริงหลิงซินเท่านั้น” ขณะที่เด็กมหัศจรรย์สามตาพูดขาดคำ เสียงที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ง่ายนักกว่าคนอื่นเขาจะเดินทางไกลเป็นล้านล้านลี้ เพื่อเป็นแขกที่บ้านของเจ้า เจ้าไม่เพียงต้องให้การต้อนรับเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นเจ้าจะต้องคอยเคียงข้างตลอดทาง ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี…”
“…ที่สำคัญมากกว่านั้น เจ้ายังจะต้องส่งคนอื่นเขากลับไปอย่างดี ส่งกลับไปที่สวนเอเดน ผู้หญิงคนหนึ่งเดินทางไกลบุกป่าฝ่าดง หนทางเต็มไปด้วยอันตราย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าจะอธิบายกับผู้อาวุโสของคนอื่นได้อย่างไรกัน” หลี่ชิเย่ตั้งใจเป็นคนกลางให้ระหว่างเด็กมหัศจรรย์สามตาและราชันแท้จริงหลิงซิน ดังนั้น จึงต้องทำให้ถึงที่สุด ถือโอกาสตามน้ำไป
มิฉะนั้นล่ะก็ อาศัยฝีมือเด็กมหัศจรรย์สามตาที่เป็นพวกสมัครเล่น คิดจะจีบติดราชันแท้จริงหลิงซินเรียกได้ว่ายากยิ่งกว่าขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นฟ้าเสียอีก
“แบบ แบบ แบบนี้ได้หรือ? ” เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่ค่อยจะมั่นใจนักเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เนื่องจากมันชัดเกินไป ตรงเกินไปแล้ว นี่มันคือความคิดของสุมาเจียว ชาวบ้านยังรู้เลยชัดๆ ”
มีอะไรไม่ได้…หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “การคุ้มครองผู้หญิงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของลูกผู้ชาย เจ้าเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า? ”
เรื่องนี้ เรื่องนี้ เรื่องนี้…เวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับตอบไม่ถูก
เทียบกับเด็กมหัศจรรย์สามตาที่โง่ๆ ทึ่มๆ แล้วราชันแท้จริงหลิงซินดูจะใจกว้างมากทีเดียว นางอมยิ้มพูดกับเด็กมหัศจรรย์สามตาว่า “ถึงตอนนั้น ต้องรบกวนพี่สามตาแล้วล่ะ”
“ได้ ได้ ได้เลย” เด็กมหัศจรรย์สามตาพยักหน้าถี่ยิบเหมือนลูกไก่จิกกินข้าวอย่างนั้น ในเวลานี้ภายในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตารู้สึกดีใจมาก นาทีนี้ เขาอยากให้วันนั้นมาถึงในทันทีให้รู้แล้วรู้รอดไป
ลองนึกภาพดู คราวนี้ขั้นตอนในเวลานั้น ช่วงเวลาที่เขากับราชันแท้จริงหลิงซินอยู่ด้วยกันลำพังสองต่อสองมีมากน้อยเพียงใด เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตานึกถึงตรงนี้แล้ว พลันจิตใจล่องลอยขึ้นไป
ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตารู้สึกขอบคุณหลี่ชิเย่อย่างยิ่งในใจ หากไม่เป็นเพราะหลี่ชิเย่สอดเข้ามาคำหนึ่ง เขาก็ไม่กล้าออกปากเชื้อเชิญราชันแท้จริงหลิงซิน
“ถึงเทียนเชี่ยนแล้ว” ในขณะที่ความคิดของเด็กมหัศจรรย์สามตาลอยล่องนั้น เสียงเอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ดังขี้น
เด็กมหัศจรรย์สามตากับราชันแท้จริงหลิงซินต่างได้สติกลับมา เมื่อทอดสายตามองออกไป ด้านหน้ามีสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารยึดครองอยู่ที่ตรงนั้น
เทียนเชี่ยนตั้งอยู่บริเวณชายแดนที่ห่างไกลของแดนลัทธิเซียน เรียกได้ว่านี่คือสถานที่ที่เป็นชายแดนห่างไกลมากที่สุดของแดนลัทธิเซียน ถ้าหากก้าวพ้นเทียนเชี่ยนนี้ไปก็จะเข้าสู่ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตายิ่ง
เทียนเชี่ยนเสมือนดั่งเป็นมังกรขนาดยักษ์ที่ยึดครองพื้นที่บนท้องฟ้า คล้ายเป็นกำแพงที่มีความยาวหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านลี้ที่ทอดข้ามแนวชายแดนของแดนลัทธิเซียนทั้งหมด
พูดให้ง่ายก็คือ แนวเทียนเชี่ยนทั้งหมดได้กั้นขวางแดนลัทธิเซียนทั้งหมดเอาไว้ด้านหลัง เทียนเชี่ยนที่อยู่ตรงหน้าก็คือแนวป้องกันของแดนลัทธิเซียนแล้ว
โดยที่เทียนเชี่ยนทั้งหมดมีความยาวถึงหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านลี้ ขณะที่บริเวณตรงกลางของเทียนเชี่ยนก็คือด่านเทียนสงกวานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งด่านเทียนสงกวานก็เป็นสถานที่ที่อยู่ห่างไกลมากที่สุดของชายแดนแดนลัทธิเซียน
ถ้าหากยืนอยู่บริเวณด่านเทียนสงกวานแล้วมองออกไปด้านนอก ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลด้านหน้าที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้น ด้านซ้ายคือทะเลปุ๊ตู้ไห่ ที่ตรงนั้นมองแล้วสุดลูกหูลูกตาไม่มีสิ้นสุด ด้านขวามือคือเทียนซวี่ ที่ตรงนั้นคือท้องฟ้าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด มีสุริยันจันทราและดวงดาวนับไม่ถ้วนที่ลอยล่องอยู่ตรงนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเศษซากปรักของสมรภูมิสู้รบโบราณที่ที่แตกไม่มีชิ้นดีนับไม่ถ้วนลอยล่องอยู่!
ด้วยเหตุที่ด้านนอกของเทียนเชี่ยนนั้น ซ้ายมือคือทะเลปุ๊ตู้ไห่ ขวามือคือเทียนซวี่ ถ้าหากว่ามีศัตรูบุกรุกเข้ามาในแดนลัทธิเซียน จะต้องผ่านเทียนเชี่ยนก่อน ขณะที่ผู้ปกครองและควบคุมสั่งการเทียนเชี่ยนทั้งหมดก็คือด่านเทียนสงกวาน
ดังนั้น เทียนเชี่ยนจึงเป็นแนวป้องกันด่านแรก ขณะที่ด่านเทียนสงกวานคือด่านหนาแน่นอันดับหนึ่งของแดนลัทธิเซียน!
“ถึงเทียนเชี่ยนแล้ว” เด็กมหัศจรรย์สามตามองดูเทียนเชี่ยนที่อยู่ตรงหน้าและพึมพำขึ้นมา ภายในใจกลัดกลุ้มเหมือนสูญเสียอะไรไป
เนื่องจากเขารู้ว่าเมื่อถึงเทียนเชี่ยนแล้ว ก็เป็นการบ่งบอกว่าลาจาก ในเวลานี้ทำให้ภายในใจของเขาสับสนวุ่นวาย เขาไม่ได้มาที่เทียนเชี่ยนเป็นครั้งแรก แต่ว่า เป็นครั้งแรกที่เขามีจิตใจที่สับสนเช่นนี้
“ลาก่อนทั้งสองท่าน วันหน้าพบกันใหม่” ครั้นเหยี่ยวห้าสีกำลังจะบินข้ามเทียนเชี่ยนนั้น ราชันแท้จริงหลิงซินได้แสดงคารวะแบบจีนเพื่ออำลาต่อพวกหลี่ชิเย่สองคน
“ลาก่อน” เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่อยากจาก แต่ก็ได้แต่แสดงคารวะแบบจีนเช่นกัน
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ พยักหน้าแล้วกระโดดขึ้นไป ร่อนลงไปที่เทียนเชี่ยน เด็กมหัศจรรย์สามตาได้แต่ติดตามลงไป ร่อนลงไปที่เทียนเชี่ยน
อิ้ววว…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่พวกเขาร่อนลงไปยังเทียนเชี่ยนนั้น เหยี่ยวห้าสีคำรามเสียงยาวแล้วบินข้ามเทียนเชี่ยนไป มุ่งไปยังทิศทางของเทียนซวี่ที่เป็นท้องฟ้าด้านเหนือ
เด็กมหัศจรรย์สามตายืนอยู่ที่เทียนเชี่ยน มองดูเหยี่ยวห้าสีที่ทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งสายตามองดูการจากไปของราชันแท้จริงหลิงซิน กระทั่งหายไปท่ามกลางเทียนซวี่ที่เป็นท้องฟ้าด้านเหนือซึ่งสุดลูกหูลูกตา ไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน
“คนเขาก็ไปแล้ว ยังจะเหม่ออยู่ทำไม” เสียงที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ดังขึ้น ขณะที่เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน
…………………………………………………………………..
Comments