ตอนที่ 2915 เทียนเชี่ยน

หลังจากเด็กมหัศจรรย์สามตาจากไปแล้ว หลี่ชิเย่ได้ก้าวเดินบนเทียนเชี่ยนช้าๆ ก้าวเดินบนทางหินที่กว้างใหญ่ทีละก้าวๆ

เทียนเชี่ยนพูดให้เข้าใจง่ายก็คือกำแพงเมืองของแดนลัทธิเซียน เป็นกำแพงเมืองที่ทอดยาวล้านล้านลี้

ความใหญ่โตของเทียนเชี่ยนไม่อาจจินตนาการได้ ถ้าหากเจ้ายืนอยู่บนกำแพงของเทียนเชี่ยนและมองลงไปด้านล้าง จะมองเห็นเมฆสีขาวลอยล่อง โดยเมฆสีขาวลอยอยู่บริเวณกึ่งกลางของกำแพงเมือง และเมฆขาวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเจ้าเอง

ดังนั้น หากเจ้ายืนอยู่ด้านล่างของเทียนเชี่ยนแล้วมองขึ้นไปด้านบน มองเห็นตัวกำแพงไม่เพียงแต่ทอดยาวต่อเนื่องเป็นล้านล้านลี้เท่านั้น มันยังมีความสูงที่สุดเอื้อมตรงขึ้นไปยังท้องฟ้า ตัดขาดฟ้าดิน

กล่าวได้อย่างไม่เป็นการโอ้อวดว่า นับจากเทียนเชี่ยนเท่ากับเป็นการตัดขาดระหว่างแดนลัทธิเซียนกับภายนอก เทียนเชี่ยนที่ยาวเป็นล้านล้านลี้เหมือนทำการปกป้องแดนลัทธิเซียนเอาไว้ทั้งหมด

ด้วยเทียนเชี่ยนที่ทอดยาวต่อเนื่อง และสูงใหญ่เช่นนี้ ซึ่งก่อสร้าง ณ บนพื้นที่กันดารห่างไกลของแดนลัทธิเซียน ซึ่งผืนแผ่นดินที่กันดารห่างไกลดังกล่าวนี้คือพื้นที่ที่เป็นชายแดนมากที่สุดของแดนลัทธิเซียนแล้ว ที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่ที่ใกล้กับเทียนซวีมากที่สุดแล้ว

ณ พื้นที่ห่างไกลและกันดารที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตนี้ อาณาบริเวณของมันมีขนาดใหญ่กว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดๆ ในแดนลัทธิเซียน กระทั่งกล่าวได้ว่า ผืนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิหลายสิบแห่งในแดนลัทธิเซียนรวมกันยังมีขนาดกว้างขวางใหญ่โตไม่เท่าพื้นที่ห่างไกลและกันดารนั่น

เมื่อพื้นที่ห่างไกลและกันดารเปรียบเทียบกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิขนาดใหญ่แต่ละแห่งแล้ว ถือว่ามันค่อนข้างจะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ว่า ในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้กลับเป็นแหล่งรวมผู้กล้าที่มาจากทั่วพื้นปฐพีทั่วหล้า

แน่นอนที่สุด บรรดาผู้คนที่มารวมตัวกัน และหรืออาศัยอยู่ที่พื้นที่ห่างไกลและกันดารเหล่านี้ ในบรรดาพวกเขาเหล่านั้นมาที่นี่ด้วยสาเหตุต่างๆ นานา บ้างหลบเลี่ยงศัตรู และบ้างเป็นคนร้ายที่หนีมาอยู่ที่นี่ และมีบ้างที่เป็นผู้เยี่ยมยุทธมาอาศัยอยู่อย่างสันโดษที่นี่

เปรียบเทียบกับบรรดาระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิขนาดใหญ่แต่ละแห่งในแดนลัทธิเซียนแล้ว พื้นที่ห่างไกลและกันดารมีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ มันไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองใดๆ ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ ใดลัทธิหนึ่ง ไม่มีข้อจำกัดต่างๆ เหมือนเช่นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิแต่ละแห่ง

แน่นอนที่สุด เนื่องเพราะไม่มีการปกครองต่างๆ นานาในพื้นที่ห่างไกลและกันดารลักษณะเช่นนี้แล้ว ส่งผลให้เกิดปลาใหญ่กินปลาเล็ก กฎเกณฑ์ที่สูงสุดของที่นี่ก็คือ กำปั้นใครใหญ่กว่า กำลังความสามารถใครแข็งแกร่งกว่า คนนั้นก็คือกฎเกณฑ์

แม้ว่าพื้นที่ห่างไกลและกันดารยังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสับสนวุ่นวาย แต่ว่า ที่เทียนเชี่ยนกลับเป็นระเบียบเรียบร้อยชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคนร้ายที่อวดดีมากมายเพียงใด หรือว่าเป็นเจ้าถิ่นที่มีกำลังกล้าแข็งที่ใดที่หนึ่งก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่กล้าก่อกรรมทำชั่วในเทียนเชี่ยน หรือด่านเทียนสงกวาน

เนื่องจากเทียนเชี่ยน และด่านเทียนสงกวานล้วนอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพเทียนเชี่ยน ขณะที่กองทัพเทียนเชี่ยนก็คือหนึ่งในกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนลัทธิเซียนในยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นไท่อิ๋นสี่ ผู้เฝ้าด่านเทียนสงกวาน และก็คือผู้กุมอำนาจของกองทัพเทียนเชี่ยน คือผู้ที่มีกำลังความสามารถลึกล้ำยากจะหยั่งถึง

ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะก่อเรื่องในเทียนเชี่ยน และด่านเทียนสงกวาน ล้วนแล้วแต่ต้องประเมินกำลังความสามารถของตนเสียก่อน

หลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินอยู่บนเทียนเชี่ยนนั้น บนกำแพงดังกล่าวเรียกว่ามีขนาดที่กว้างใหญ่ยากจะหาใดเทียม ต่อให้รถม้าหลายสิบคันวิ่งเรียงหน้ากระดานก็ไม่มีผลกระทบใดๆ แม้แต่น้อย ปราศจากความแออัดอย่างสิ้นเชิง

ด้วยพื้นที่ด้านข้างกำแพงที่มีขนาดใหญ่ มองดูแล้วก็คล้ายเป็นสนามที่กว้างใหญ่ไพศาล ทั้งยังเป็นสนามที่กว้างใหญ่ไพศาลซึ่งทอดยาวต่อเนื่องนับล้านล้านลี้

หลี่ชิเย่ก้าวเดินช้าๆ ทีละก้าวๆ ถ้าหากอาศัยความเร็วของหลี่ชิเย่ล่ะก็ เกรงว่าแม้เทียนเชี่ยนจะมีความยาวเป็นล้านล้านลี้ เขาก็สามารถเดินจนหมดได้ในพริบตาเดียว

แต่ว่า ในขณะนี้หลี่ชิเย่กลับก้าวเดินไปทีละก้าวๆ เหมือนการก้าวเดินของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ฝีเท้าของเขาขณะก้าวเดินนั้นได้ทำการเคาะอยู่หินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าไปเบาๆ

เทียนเชี่ยนที่มีความสูงใหญ่ และมีความยาวที่ทอดยาวต่อเนื่องเช่นนี้ ทุกคนไม่สามารถบอกได้ว่า เทียนเชี่ยนลักษณะเช่นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุเช่นใดกันแน่

วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเทียนเชี่ยนแลดูคล้ายเป็นหิน มีสีเทาอ่อน และมีสีเทาแซมขาว ก้อนหินทุกๆ ก้อนล้วนแล้วแต่หยาบมาก เหมือนว่าไปผ่าเอามาจากภูเขาโดยตรงแล้วขนย้ายเอามา แล้วก่อเอาไว้ตรงนี้ โดยไม่ได้มีการเจียระไนแกะสลักมาก่อน

ด้วยวัสดุแบบนี้แหละ ก้อนหินแต่ละก้อนมีขนาดที่ใหญ่มาก บางแห่ง แค่ก้อนหินก้อนเดียวก็คือหลายร้อยกิโลเมตร กระทั่งหลายพันกิโลเมตร

นี่คือผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก เหมือนว่ามีคนจัดการผ่าเอาเทือกเขาที่เป็นเส้นชีพจรหินเทือกหนึ่งออกมาโดยตรง เฉือนเอาต้นไม้และดินออก จากนั้นก็นำเอาหินที่มีขนาดใหญ่โตหลายพันกิโลเมตรมาก่อสร้างเอาไว้ที่นี่โดยตรง

เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น จากการที่หลี่ชิเย่ก้าวเท้าออกไปทีละก้าวๆ นั้น จังหวะการก้าวเท้าของเขาได้เคาะใสหินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า และเคาะใส่เทียนเชี่ยนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า

หลี่ชิเย่ไม่เพียงแต่ทำการรังวัดเทียนเชี่ยนที่อยู่ใต้เท้าเท่านั้น ขณะเดียวกันก็เป็นการครุ่นคิดถึงภาพรวมโครงสร้างทั้งหมดของเทียนเชี่ยน

“ไม่ใช่เป็นเพียงก้อนหินเท่านั้น” จากการที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงมีเค้าโครงเกี่ยวกับโครงสร้างของเทียนเชี่ยนทั้งหมดขึ้นมาอย่างช้าๆ

วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเทียนเชี่ยนนั้น แลดูเหมือนเป็นหิน แต่ มันไม่ใช่หินที่แท้จริง

ก้อนหินก้อนใหญ่แต่ละก้อนที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นเทียนเชี่ยนทั้งหมดเหล่านี้ ไม่ทราบว่ามันถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยใด ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดมาเท่าใด ผ่านกาลเวลาที่ไหลเคลื่อนไปนานเท่าไร แต่ว่า มันยังคงตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางฟ้าดินในสภาพที่สมบูรณ์ กลายเป็นโล่ป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนลัทธิเซียน

สิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้หาใช่ก้อนหินธรรมดาทั่วไปสามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาได้อยู่แล้ว

จากการสำรวจทีละขั้นๆ ของหลี่ชิเย่พบว่า วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเทียนเชี่ยนนั้นสลับซับซ้อนยิ่ง ก้อนหินบางส่วนหลี่ชิเย่สามารถสำรวจตรวจสอบได้ เป็นการนำเอาดาวเคราะห์ทั้งดวงมาหลอมกลั่นขึ้นมาโดยตรง ดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ดวงหนึ่งหลอมกลั่นเป็นก้อนหินที่ยาวเป็นหมื่นลี้ และอัดแน่นอยู่ตรงนี้โดยตรง

และมีก้อนหินที่ถึงกับเป็นกระดูกจากมังกรยักษ์ หรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณที่พบเห็นได้ยาก โดยนำเอาโครงกระดูกมาหลอมกลั่นจนกลายเป็นหิน และก่อสร้างเอาไว้ที่นี่

อีกทั้งใช่เป็นเพียงแค่หลังจากนำเอากระดูกจากมังกรยักษ์ หรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณมาหลอมกลั่นเป็นก้อนหินแล้วก่อสร้างเอาไว้ที่นี่เท่านั้น ยังนำเอาพลังของมังกรยักษ์ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณมาผนึกเอาไว้ในก้อนหิน ส่งผลให้ก้อนหินก้อนหนึ่งมีพลังที่แข็งแกร่งจากมังกรยักษ์ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณในครอบครอง

ยังมีก้อนหินที่หลอมกลั่นมาจากเหมือนแร่วิเศษทั้งแปลง ซึ่งเป็นโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งยิ่ง นำเอาโลหะศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้มาหลอมสร้างเป็นอาวุธล่ะก็ เรียกว่าล้ำค่าอย่างยิ่ง

แต่ทว่า ในยุคสมัยดึกดำบรรพ์กลับมีผู้ลงมือหลอมกลั่นภูเขาเหมืองแร่ทั้งลูก จนกลายเป็นก้อนหิน และนำมาก่อสร้างอยู่ตรงนี้ในที่สุด

……

สรุปก็คือ ก้อนหินทุกๆ ก้อนล้วนแล้วแต่หาใช่เป็นแค่ก้อนหินธรรมดาๆ เท่านั้น กล่าวอย่างไม่เป็นการโอ้อวดได้ว่า หากนำเอาก้อนหินของเทียนเชี่ยนกลับไปก้อนหนึ่งก็สามารถใช้เป็นของวิเศษได้

แต่ว่า หากคิดจะขุดเอาก้อนหินของเทียนเชี่ยนกลับไปนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เนื่องจากตัวเทียนเชี่ยนเป็นเนื้อเดียวกัน มันไม่ได้แค่นำเอาก้อนหินแต่ละก้อนมาก่อสร้างเอาไว้ตรงนี้ง่ายๆ เท่านั้น มันเป็นโครงสร้างของขุมพลังทั้งหมด สุดท้าย จึงนำเอาก้อนหินแต่ละก้อนมาก่อสร้างเอาไว้ จนกลายเป็นเทียนเชี่ยนในที่สุด

กล่าวได้ว่า เทียนเชี่ยนกับพื้นที่ห่างไกลและกันดารเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่สามารถสั่นคลอนมันได้อยู่แล้ว

อย่าว่าแต่อาศัยพลังของยอดฝีมือโดยทั่วไปเลย ต่อให้เป็นพลังของราชันแท้จริงก็ยากจะสั่นคลอนมันได้เมื่อมาอยู่บนเทียนเชี่ยนแห่งนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากคิดจะทำให้เทียนเชี่ยนแตกละเอียด

“ผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก” หลี่ชิเย่ก้าวเดินอยู่บนเทียนเชี่ยน สุดท้ายอดที่จะอุทานด้วยความซึ้งใจ ทอดถอนใจยิ่งกับเทียนเชี่ยนทั้งหมดที่ทอดยาวต่อเนื่องเป็นล้านล้านลี้ และกล่าวว่า “ต่อให้เซียนเป็นผู้สร้างเทียนเชี่ยนลักษณะเช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมาก ผู้ที่สามารถสร้างเทียนเชี่ยนเช่นนี้ขึ้นมาได้นับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้ หาใช่ระดับปฐมบรรพบุรุษสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว”

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งมหัศจรรย์เช่นเทียนเชี่ยนนี้ หาใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาสามารถสร้างขึ้นมาได้ และไม่ใช่สิ่งที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั่วไป หรือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปสามารถสร้างขึ้นมาได้

เทียนเชี่ยนทั้งหมดมีความยาวนับล้านล้านลี้ คิดจะสร้างมันขึ้นมาต้องเป็นผู้ที่สามารถย้ายภูเขาขนทะเล เอื้อมมือพลันสามารถคว้าสุริยันจันทราและดวงดาวมาหลอมกลั่นให้เป็นหินได้ จึงสามารถสรรสร้างเทียนเชี่ยนที่มีลักษณะเช่นนี้ขึ้นมาได้

แต่ว่า กล่าวสำหรับแดนลัทธิเซียนแล้ว ไม่มีผู้ใดทราบว่าเทียนเชี่ยนเริ่มก่อสร้างจนสำเร็จตั้งแต่ยุคสมัยใดกันแน่ สรุปก็คือ ในความทรงจำของทุกคน ขณะที่มีสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้เทียนเชี่ยนก็ดำรงอยู่ที่ตรงนี้อยู่แล้ว เหมือนว่ามันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เริ่มแรกมีฟ้าดินมาแล้ว

แม้ว่าไม่มีบันทึกอย่างละเอียดเกี่ยวกับเทียนเชี่ยน แต่ว่า ก็เคยมีเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาบ้าง ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดสามารถตีเทียนเชี่ยนให้แตกได้

“การได้ล้อมคอกก่อนวัวหาย นับเป็นความโชคดีของแดนสามเซียน สามารถมีปรัชญาเมธีเช่นนี้ได้ สามารถมีบรรพบุรุษเช่นนี้ ทำให้แดนสามเซียนหลบหนีจากภัยพิบัติมาได้กี่ครั้ง หลีกหนีจากการถูกทำลายให้พินาศย่อยยับมากี่ครั้ง” หลี่ชิเย่อดที่จะทอดถอนใจและกล่าวว่า “การที่แดนสามเซียนสามารถหลีกหนีจากเคราะห์กรรมครั้งแล้วครั้งเล่าหาใช่เรื่องบังเอิญ แต่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของบรรพบุรุษที่ยากจะหาผู้ใดเทียมนิรันดร์กาล”

กล่าวได้ว่า ทั่วทั้งแดนสามเซียนคล้ายเป็นป้อมปราการขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรย ขณะที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มีชีวิตอยู่ภายในแดนสามเซียนกลับไม่รู้ว่า ตนเองนั้นมีชีวิตอยู่ท่ามกลางป้อมปราการที่ปลอดภัยมากที่สุด

ป้อมปราการขนาดยักษ์ลักษณะเช่นนี้ของแดนสามเซียนนี้ นอกเหนือจากที่มันมีความได้เปรียบที่มีมาแต่กำเนิดจากสวรรค์ที่เมตตาเป็นพิเศษแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นการปกป้องคุ้มครองจากบรรพบุรุษที่ยากจะหาใดเทียมของแดนสามเซียน

น่าเสียดาย เฉกเช่นเก้าแดน เช่นสิบสามทวีปและศตวรรษที่ผ่านมากลับไม่ได้มีความโชคดีเช่นนี้ เนื่องจากเก้าแดนก็ดี สิบสามทวีปก็ช่าง ล้วนแล้วแต่เป็นโลกที่อยู่นอกเขต ไม่เหมือนดั่งแดนสามเซียนอย่างนั้น

เทียนเชี่ยนมีขนาดใหญ่โตยิ่งนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ก็คือ ใต้เทียนเชี่ยนมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า พลังลักษณะเช่นนี้ก่อตัวเป็นพลังแฝงทั้งหมด ซึ่งรองรับกับเทียนเชี่ยนที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้

พลังเช่นนี้มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าและมีประสิทธิผลมากกว่าตัวของเทียนเชี่ยนเอง หากจะกล่าวว่ามีศัตรูที่บุกรุกมาจากภายนอก ลำพังแค่ตีแตกเทียนเชี่ยนนั้นไร้ประโยชน์ จะต้องทำลายพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมที่อยู่ใต้พื้นดินนั่น

หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง เขาต้องการทดสอบพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียามถึงความมหัศจรรย์ที่ก่อตัวกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

ในขณะนี้ ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้ปลับกลายเป็นโปร่งใสขึ้นมาช้าๆ เหมือนกำลังจะหลอมละลายอย่างนั้น จากการที่กายของหลี่ชิเย่มีความโปร่งแสงมากยิ่งขึ้น เขาเริ่มหลอมรวมเข้าไปอยู่ในเทียนเชี่ยน

จากการที่ร่างกายของหลี่ชิเย่หลอมมากขึ้นๆ ร่างกายของเขาได้ค่อยๆ จมลง โดยมุ่งหน้าจมลงสู่บริเวณที่ลึกที่สุดของเทียนเชี่ยน

ปุ…เสียงหนึ่งดังสนั่นขึ้นมา เมื่อร่างกายของหลี่ชิเย่ได้จมลงไปจนลึกได้ระดับหนึ่งแล้ว พลังมหาศาลใต้พื้นดินก็รับรู้ได้ถึงการรุกรานของหลี่ชิเย่

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังปุนี้ พลังที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าพลันสะท้อนกลับ จัดการส่งร่างของหลี่ชิเย่กระเด้งออกมาจากเทียนเชี่ยน

“พลังที่แข็งแกร่งมาก” หลังจากที่หลี่ชิเย่ ถูกพลังมหาศาลที่อยู่ด้านล่างกระเด้งออกมาแล้ว อดที่จะทอดถอนใจขึ้นมา

ถ้าหากหลี่ชิเย่เอาจริง ใต้หล้านี้ยากที่จะหาพลังใดที่สามารถดีดเอาตัวของเขาออกมาได้อยู่แล้ว

พลังเช่นนี้อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงเลย ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้

ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ผู้ก่อสร้างเทียนเชี่ยนขึ้นมานั้น ช่างมีกลอุบายที่สะเทือนเลื่อนลั่นอะไรอย่างนั้น

……………………………………………………………..