Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2961 การแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่ 2961 การแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง
“ข้ามีราชาพยัคฆ์ตัวหนึ่ง ลายมังกร กรงเล็บหงส์ มีสายเลือดพยัคฆ์ขาว อายุสามหมื่นปี มีชาติกำเนิดมาจากเขาปุ๊โจวซาน ขอแลกกับโลงศพเซียนลูกนี้ได้ไหม…”
“ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของข้ามีสายแร่เหมืองผงดาว สายแร่กินอาณาบริเวณราวแปดพันลี้ คาดว่ามีผลผลิตแปดล้านตันต่อปี สามารถป้อนผงดาวให้กับแดนลัทธิเซียนได้ถึงหนึ่งในสาม อาศัยสิ่งนี้แลกกับโลงศพเซียนนี้ดีไหม?”
“สำนักข้ามีแดนลึกลับแห่งหนึ่ง แดนลึกลับดังกล่าวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยการให้กำเนิดพาหนะ ประเภทของพาหนะมีอยู่ราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปดชนิด พาหนะชั้นอ๋องสามารถให้ราชันแท้จริงบังคับเป็นผู้ขับควบคุม ใช้มันแลกกับโลงศพเซียนจะเป็นอย่างไร?”
“ภายในแคว้นของข้ามีแม่น้ำใหญ่เก้าเลี้ยวอยู่สายหนึ่ง ในแม่น้ำกำเนิดปลาหลีฮื้อโยกสวรรค์ที่มีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นประเภทสิ่งของที่มีคุณภาพสูงสุดในการกลั่นยาเม็ด จะได้ปลาหลีฮื้อโยกสวรรค์สามพันตัวต่อปี เป็นที่ต้องการของแดนลัทธิเซียน ใช้สิ่งนี้แลกกับโลงศพเซียนจะเป็นเช่นใด”
……
เปรียบเทียบกับบรรดาผู้เสนอราคาที่สร้างความขบขันแล้ว ยังมีระดับผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนที่มีการเสนอราคากันอย่างแท้จริง ผู้ที่เสนอราคาอย่างแท้จริงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าผู้ครองอาณาจักรๆ หนึ่ง หากไม่ใช่หัวหน้าพรรคก็คือกษัตริย์ของแคว้นๆ หนึ่ง บางคนตัวของเขาเองก็คือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะอยู่แล้ว
แม้ว่าการเสนอราคาของพวกเขาจะแตกต่างกันไป แต่ทว่า ราคาที่เสนอมานั้นล้วนแล้วแต่มีความเย้ายวนใจอย่างยิ่ง ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินจนหัวใจเต้นตูมตาม
แม้ว่าบรรดาผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้จะไม่ได้ควักเป็นเงินเป็นทองออกมา แต่ว่า สิ่งที่พวกเขาสามารถนำออกมาวางเป็นประกันได้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งทรัพยากรที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสายแร่ หรือแม่น้ำใหญ่ล้วนแล้วแต่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งขุมทรัพย์ทั้งสิ้น
บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ที่มีฐานะต่างก็ได้เสนอราคากันไปแล้ว กระทั่งมีบางคนถึงกับนำเอาของวิเศษประจำสำนักตนออกมาแลกกับโลงศพเซียน
แม้ว่าห้างเจียวเหิงจะไม่ได้ให้คำตอบในทันที แต่ว่า พวกเขาได้จดบันทึกเอาไว้ทั้งหมด
“ข้ามีโครงกระดูกหงส์อมตะโครงหนึ่งมาแลกเปลี่ยน” ในขณะนี้ ถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีได้สำแดงความเป็นผู้ที่ร่ำรวยขึ้นมาเพียงชั่วข้ามคืน กล่าวว่า “เพิ่มเติมศิลาแกร่งสำหรับราชันแท้จริงห้าลัคนาโดยเฉพาะอีกสามร้อยล้าน!”
สามร้อยล้าน…ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์มีผู้ใจหายใจคว่ำไม่น้อย เมื่อได้ยินคำพูดของถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐี
ในเวลานี้ มีสายตาจำนวนไม่น้อยที่ไปรวมอยู่บนตัวของถังเปิง นับว่านี่หาใช่เป็นทายาทเศรษฐีธรรมดานะเนี่ย การใช้จ่ายเงินในลักษณะเช่านี้อย่าว่าแต่บรรดานายน้อยของสำนักเจ้าลัทธิ หรือองค์ชายของแคว้นๆ หนึ่งเลย ต่อให้พวกเขาผลาญสมบัติพ่อแม่ขนาดไหน ต่อให้การใช้จ่ายเงินทองมือเติบเช่นใด ก็เทียบไม่ได้กับการใช้จ่ายเงินทองของทายาทเศรษฐีอย่างถังเปิงคนนี้
“สามร้อยล้าน อ้ายบ้าเอ๊ย ข้าอยากจะไปปล้นเขาสักที” มีผู้ที่ถึงกับพึมพำขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดขอถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีผู้นี้
“อ๋อพี่น้อง ยินดีต้อนรับท่านมาแย่งชิงข้า องครักษ์ของข้าแค่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นศักราชเท่านั้นเอง” เมื่อถังเปิงได้ยินคำพูดนี้แล้วหัวเราะเสียงดัง และจ้องไปที่ยอดฝีมือผู้นั้น ท่าทางเหมือนเป็นเจ้าถิ่นคนหนึ่ง และกล่าวว่า “คุณชายอย่างข้ากำลังคิดจะจ้างระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสักหลายๆ คนมาเป็นองครักษ์ของข้า ต้องการเงินได้เงิน ต้องการของวิเศษได้ของวิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเลือดมังกรเทพ หรือแก่นของสัตว์มงคลล้วนให้ได้ทั้งนั้น คุณชายอย่างข้ามีเงินสักอย่าง”
พลันที่ถังเปิงพูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนผู้นี้มีสีหน้าที่แดงก่ำ เขาหัวเราะแห้งๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าพูดล้อเล่น ล้อกันเล่นๆ”
ด้วยความมือเติบเช่นนี้ของถังเปิงก็ได้ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง แต่ว่า ก็ใช่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าบรรดาเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจะมีฐานะสูงส่ง แต่ว่าขอเพียงกล้าทุ่ม สุดท้ายย่อมคุยกันได้อยู่แล้ว จะอย่างไรเสีย ต้องมีสิ่งของบางสิ่งสามารถทำให้เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลต้องหวั่นไหวอยู่แล้ว
“สาวน้อย เจ้าคิดว่าราคาที่ข้าเปิดไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?” เวลานี้ ถังเปิงยังคงไม่ลืมที่จะยิ้มแต้ชวนหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลคุย
“เงื่อนไขของคุณชายถังดีมาก ทางห้างจะต้องพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรกแน่นอน” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลก็มีใบหน้าแฝงด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ล่วงเกินต่อถังเปิง ท่าทางที่งามหยาดเยิ้มนั้นแทบจะละลายออกมา
“โลงศพเซียนอะไรนั่น คุณชายอย่างข้าไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร แค่ร่วมสนุกๆ ตามอารมณ์ไปอย่างนั้น” ถังเปิงหัวเราะและกล่าวว่า “สาวน้อยงดงามถึงเพียงนี้ ข้า ถังเปิงกลับอยากจะได้ชิดใกล้สาวน้อยสักหน่อย”
หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลอมยิ้มโดยไม่พูดอะไร บรรดาผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอึ้งกับเรื่องนี้ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเจ้าทายาทเศรษฐีผู้นี้มาเพื่อประมูลหรือจีบหญิงกันแน่
สามร้อยล้านนับเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมากแล้ว แม้จะเป็นศิลาแกร่งเฉพาะสำหรับราชันแท้จริงห้าลัคนาเท่านั้น ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือโครงกระดูกหงส์อมตะโครงนั้น
สิ่งนี้สร้างความแปลกใจอย่างยิ่งสำหรับถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีแล้วล่ะ เจ้าทายาทเศรษฐีผู้นี้มีที่มาอย่างไรกันแน่ หรือจะเป็นบุตรของราชันแท้จริงสักคนหนึ่ง
แต่ว่า เมื่อนึกดูแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าหากเป็นบุตรของราชันแท้จริงคนหนึ่งจริงๆ ต่อให้ธาตุแท้ภายในของราชันแท้จริงผู้นี้จะมากมายเพียงใดก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะปล่อยให้บุตรของตนมาถลุงเงินเป็นเบี้ยอย่างนี้ และล้างผลาญสมบัติตระกูลเช่นนี้
ตรงกันข้าม กล่าวสำหรับราชันแท้จริงบางส่วนแล้ว พวกเขาเข้มงวดกับบุตรของตนยิ่งกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้บุตรของตนมาเป็นทายาทเศรษฐีที่วันๆ ไม่ทำอะไร รู้จักแต่การถลุงเงินเป็นเบี้ยเท่านั้น
เวลานี้ใครก็ดูออกว่า ท่าทางของถังเปิงคนนี้คือท่าทางข้าน่ะมีเงินที่ใช้อย่างไรก็ไม่หมดอย่างนั้น ถลุงเงินไปทั่ว ไม่กะพริบตาสักนิดกับเงินสามพันล้านที่โยนออกไป
ว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลก ประวัติความเป็นมาของทายาทเศรษฐีอย่างถังเปิงคล้ายเป็นปริศนาอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยสักนิด
“ตำหนักเทพจินเปี้ยนพวกเรายินดีจ่ายศิลาแกร่งปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษะห้าร้อยล้าน” ในเวลานี้มีผู้เฒ่าผู้หนึ่งเสนอราคาขึ้นมา เขามีชาติกำเนิดมาจากตำหนักเทพจินเปี้ยน เป็นบุคคลระดับผู้ยิ่งใหญ่ข้างกายของเทพสงครามจินเปี้ยน
“ศิลาแกร่งปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษะห้าร้อยล้าน!” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
แต่ทว่า เมื่อผู้คนจำนวนมากได้สติกลับมาแล้ว อดมองหน้ากันและกันไม่ได้ รู้สึกว่าราคานี้ต่ำเกินไปแล้ว
“ราคานี้นับว่าสูงมากแล้ว” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งกล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมื่อได้สติกลับมา
“แต่ว่า เมื่อครู่นั้น หลี่พันล้านทุ่มเงินเป็นพันล้านนะ” มีผู้ซุบซิบขึ้นมา
“อย่าเอาคนบ้าอย่างหลี่พันล้านมาเปรียบเทียบ” เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ค่อนข้างมีเหตุผล และกล่าวว่า “กระบี่ปฐมบรรพบุรุษเล่มนั้นอย่างมากก็ห้าสิบล้าน ห้าสิบล้านก็นับว่าสูงไปนิดหนึ่งแล้ว ราคาที่สมเหตุสมผลอยู่ที่สามสิบล้าน แม้ว่าโลงศพเซียนลูกนี้คือของวิเศษชิ้นสุดท้าย แต่ว่า ราคาห้าร้อยล้านว่ากันตามราคาแล้ว นับว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล จะอย่างไรเสีย ถามว่ามีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดสามารถควักศิลาแกร่งปฐมบรรพบุรุษออกมารวดเดียวถึงห้าร้อยล้านได้”
ทุกคนต่างมองตากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ โดยเฉพาะบรรดาหัวหน้าพรรค กษัตริย์เหล่านั้น พวกเขาต่างพิจารณาถึงคลังสมบัติของตนเงียบๆ ต่อให้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเขาก็ไม่สามารถควักศิลาแกร่งปฐมบรรพบุรุษห้าร้อยล้านออกมาได้ แม้ว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษชั้นลัทธิพรรษะก็ตาม
“แม่จ๋า หลี่พันล้านร้ายเหลือเกิน” ในเวลานี้เมื่อเห็นว่าตำหนักเทพจินเปี้ยนอย่างดีก็แค่ควักออกมาได้ห้าร้อยล้านเท่านั้นเอง ขณะที่หลี่ชิเย่ก่อนหน้านั้นก็ทุ่มไปแล้วหนึ่งพันล้าน ช่างเป็นความน่ากลัวอะไรอย่างนั้น
เมื่อไม่มีการไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ก็จะไม่ทำให้จิตใจของตนถูกทำร้าย พลันที่มีการเปรียบเทียบทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ กำลังของตำหนักเทพจินเปี้ยนช่างแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น ธาตุแท้ภายในช่างแข็งแรงอะไรเพียงนี้ พวกเขาก็ควักออกมาได้ห้าร้อยล้านเท่านั้นเอง ต่อให้พวกเขาสามารถควักหนึ่งพันล้านได้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นเรื่องที่สร้างความกดดันให้พวกเขามากทีเดียว ต้องผ่านการประชุมหารือจากที่ประชุมใหญ่
“บิดาข้าบอกมาแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่าของพวกเราก็ยินดีจ่ายห้าร้อยล้าน บวกกับประสบการณ์ของปฐมบรรพบุรุษหนึ่งม้วน เพื่อแลกกับโลงศพเซียนลูกนี้” ในเวลานี้เอง กว่านหวินเผิงก็ร้องเสียงดังขึ้นมา
หลังจากที่กว่านหวินเผิงได้เสนอราคาประมูลของตนไปแล้ว ก็ได้เผยท่าทางที่ลำพองใจของตนออกมา
ในลานประมูลทั้งหมด การแสดงออกของกว่านหวินเผิงนับว่าธรรมดา แม้ว่าเขาจะประมูลของวิเศษไปได้หนึ่งถึงสองชิ้น แต่ก็ไม่นับว่าโดดเด่นอะไรมากนัก ราคานั้นถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างทั่วๆ ไป
ที่กว่านหวินเผิงพูดออกมาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเสียใจอยู่บ้าง จะอย่างไรเสียเขาก็คือศิษย์น้องของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู มีฐานะที่สูงส่งอะไรอย่างนั้น เขาเข้าใจเองว่าตนนั้นสามารถเสมอภาคกับเหล่าราชันแท้จริงได้ แต่ทว่า ที่ทำให้เขาจนปัญญาก็คือเงินในกระเป๋าของเขามีอยู่ไม่มาก จำเป็นต้องให้บิดาพยักหน้า
โลงศพเซียนลูกนี้ได้รับการพยักหน้าเห็นชอบจากบิดาโดยอาศัยเงาสะท้อนพูดกับเขา ให้เพิ่มประสบการณ์ของปฐมบรรพบุรุษหนึ่งม้วนบนราคาของตำหนักเทพจินเปี้ยน
ผู้เฒ่าของตำหนักเทพจินเปี้ยนพลันมองด้วยสายตาเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของกว่านหวินเผิง กว่านหวินเผิงในฐานะผู้แทนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่า การเสนอราคาในลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนจะเป็นปฏิปักษ์กับตำหนักเทพจินเปี้ยนของพวกเขา
แต่ว่า กว่านหวินเผิงไม่ได้เกรงกลัวต่อผู้เฒ่าผู้นี้ของตำหนักเทพจินเปี้ยน แม้ว่าผู้เฒ่าผู้นี้จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ข้างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนเขาก็ไม่หวั่น ยืดอกขึ้นพร้อมกับสู้สายตากลับไป
แม้ว่าตำหนักเทพจินเปี้ยนนั้นมีความแข็งแกร่งยิ่งนักก ผู้คนจำนวนมากให้ความหวั่นเกรง แต่ว่า ในยุคปัจจุบัน ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่าไม่ได้เกรงกลัวในตำหนักเทพจินเปี้ยน อีกอย่าง แม้เทพสงครามจินเปี้ยนจะแข็งแกร่งมากไปกว่านี้แล้วอย่างไร อย่างดีก็แค่ราชันแท้จริงสิบสองลัคนาเท่านั้นเอง ขณะที่ศิษย์พี่ของเขาคือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูคือปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าเทพสงครามจินเปี้ยนอยู่เท่าไร
ดังนั้น กว่านหวินเผิงจึงไม่ได้มีความเกรงกลัวในผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักเทพจินเปี้ยนแม้แต่น้อย ส่งสายตาจ้องเขม็งกลับไป
เดิมทักษะยุทธของกว่านหวินเผิงก็ไม่เท่าไรอยู่แล้ว จัดเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเท่านั้นเอง ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักเทพจินเปี้ยนนั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านฐานะหรือกำลังความสามารถ ต่อให้ไม่สามารถเสมอภาคกับเทพม้วนเมฆาได้ แต่ก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่โด่งดังทั่วหล้า
เวลานี้ถูกกว่านหวินเผิงมองกลับด้วยแววตาเย้ยหยันกลับมาจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งในใจ แต่ว่าก็จนด้วยเกล้า ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากบิดาของกว่านหวินเผิงคือเทพม้วนเมฆา ศิษย์พี่ของเขาคือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะสั่งสอนเขาผู้ซึ่งมีผู้ให้การสนับสนุนเช่นนี้ จะอย่างไรเสีย เมื่อตีลูกก็ต้องล่อมาซึ่งผู้เป็นบิดา
ดังนั้นผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักเทพจินเปี้ยนผู้นี้จึงได้แต่ส่งเสียงฮึเย็นขาขึ้นมา
“แม่นาง การเสนอราคาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่าเป็นอย่างไรบ้าง?” ไม่ง่ายนักกว่ากว่านหวินเผิงจะมีโอกาสได้แสดงลักษณะอันน่าเกรงขามสักครั้ง ทำให้กว่านหวินเผิงถึงกับทำตัวเด่นยิ่งนัก เสียงที่พูดก็ดังขึ้นมากทีเดียว
“ดีมาก” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลพยักหน้า รอยยิ้มเต็มใบหน้า และกล่าวว่า “เมื่อใดที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพวกเราเลือกได้แล้ว จะแจ้งคุณชายกว่านทราบอย่างแน่นอน”
การที่หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลให้การต้อนรับอย่างสุภาพ ทำให้เป็นที่พึงพอใจในความฟุ้งเฟื้อของกว่านหวินเผิงยิ่งนัก จึงได้กลับไปนั่งที่ของตน
“วัดลังกาเสนอพระไตรปิฎกสองม้วน คัดด้วยมือของพระลังกา” เวลานี้แม้ว่าหมิงหวังฝอจะไม่ได้พูดด้วยตนเอง แต่ว่า กุมารซ้ายหมิงหวังช่วยเสนอราคาให้
“ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำว่า ‘พระไตรปิฎกของพระลังกา” สมควรทราบว่าพระไตรปิฎกของวัดลังกาไม่เคยเผยแพร่ออกไป ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นฉบับคัดด้วยมือของพระลังกาเอง
ยังไม่ต้องพูดถึงเนื้อหาของพระไตรปิฎก ลำพังแค่เป็นการคัดด้วยลายมือของพระลังกาก็คือของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรแล้ว สมควรทราบว่า พระลังกาไม่เพียงเป็นปฐมบรรพบุรุษระดับแดนลัทธิเซียนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นปฐมบรรพบุรุษที่มีชื่อชั้นเสมอด้วยปราชญ์ไกลกันดารอีกด้วย
พระไตรปิฎกคัดลายมือสองม้วนก็คือของวิเศษปราษจากผู้ต่อกรสองชั้น สามารถสยบสิ่งชั่วร้ายและมาร สำหรับเนื้อหาของพระไตรปิฎกก็คือพระธรรมที่ยากจะหาใดเทียม งานนี้เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว
………………………………………………….
Comments