Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2995 เรืออเวจี

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2995 เรืออเวจี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2995 เรืออเวจี

มองดูเศษชิ้นส่วน เศษซากจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับผู้คนจำนวนมาก ทะเลปุ๊ตู้ไห่มีความเงียบสงบอย่างยิ่งในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา

บรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริง เทพแท้จริงชั้นคงความอมตะตลอดกาลจำนวนมากได้เข้าไปในนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาต่างไม่ได้กลับออกมา และพวกเขาก็ไม่เคยส่งข่าวคราวกลับมาแม้แต่น้อย

แต่ว่า ทะเลปุ๊ตู้ไห่ไม่เคยมีอะไรที่เกิดขึ้นเหนือความคาดคิด ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อยตลอดพันล้านปีที่ผ่านมา

แต่แล้ว มาวันนี้ทะเลปุ๊ตู้ไห่ถึงกับมีเศษชิ้นส่วน และเศษซากลอยออกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจก็คือ บรรดาเศษชิ้นส่วน และเศษซากเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเศษชิ้นส่วนคงเหลือของเรือที่บรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริง เทพแท้จริงชั้นคงความอมตะตลอดกาลใช้โดยสารไปในครั้งนั้น

ช่างเป็นเรื่องที่สยองขวัญอะไรอย่างนั้น ขณะมองดูเศษชิ้นส่วน และเศษซากจำนวนมากเช่นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเศษซากจากเรือของปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงที่นั่งโดยสารไปในครั้งนั้น มาคราวนี้จึงพลันทำให้ผู้คนบังเกิดความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาไม่ขาดสายแล้ว

แม้ว่าทุกคนต่างไม่รู้ว่าปฐมบรรพบุรุษที่เข้าไปในครั้งนั้นได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทุกคนต่างไม่รุ้ว่าพวกเขาได้ประสบพานพบสิ่งใดในทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ว่า เมื่อเห็นเรือที่พวกเขานั่งโดยสารไปด้วยนั้นได้กลายเป็นเศษชิ้นส่วน และเศษซากไปแล้ว จะมากหรือน้อยทุกคนก็สามารถคาดการณ์ได้แล้ว

“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ พวกปฐมบรรพบุรุษล่ะ? ” มีผู้ที่เอ่ยถามในใจขึ้นเบาๆ เมื่อมองเห็นเศษชิ้นส่วน และเศษซากจำนวนมากที่ลอยออกมา

แต่ว่า ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกัน มีใครเล่าที่รู้ว่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเล่า?

สิ่งที่ทำให้ผู้คนเป็นกังวล และไม่สบายใจก็คือ แม้ว่าจะมีเศษชิ้นส่วน และเศษซากจำนวนมากลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ว่ากลับไม่เห็นมีปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงเลยสักคน ไม่พบกระทั่งศพของพวกเขา

การที่เรือโดยสารของปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงเหลือไว้เพียงเศษชิ้นส่วน และเศษซาก แต่แล้วพวกเขากลับไม่เหลือซึ่งร่องรอย พลันทำให้พวกเขารู้สึกสับสนและหวาดกลัวในใจ เหมือนว่าเป็นเรื่องที่สร้างความเขย่าขวัญอย่างยิ่ง

“บางที อาจมีเรื่องแปลกประหลาดจริงๆ ” เทพแท้จริงขั้นอมตะรุ่นอาวุโสถึงกับสั่นเทาขึ้นในใจ

ลองนึกภาพดู แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งเช่นปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงก็มีความเป็นไปได้ว่าประสบเหตุแล้ว หากเปลี่ยนเป็นพวกเขายิ่งไม่สามารถรองรับกับอันตรายเช่นนี้ได้

“ถ้าหากปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงพวกเขาประสบเหตุที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่จริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วภายในทะเลปุ๊ตู้ไห่มีสิ่งใดกันแน่เล่า อันตรายลักษณะเช่นนี้จะมาเยือนแดนลัทธิเซียนหรือไม่ล่ะ? ” ในเวลานี้บรรยากาศความไม่เป็นสุขได้กระจายไปยังภายในใจของทุกๆ คน มียอดฝีมืออดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้น

คำพูดเช่นนี้พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องสั่นเทา อดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้

เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานทะเลปุ๊ตู้ไห่ก็ได้ปรากฏลูกอุกาบาตรขนาดยักษ์ที่บินออกมา เกือบจะพุ่งชนเข้ากับแดนลัทธิเซียน เกรงว่านี่คือลางสังหรณ์กระมัง

ถ้าหากทะเลปุ๊ตู้ไห่มีอันตรายเช่นนี้จริง เมื่อใดที่อันตรายเช่นนี้มาเยือนแดนลัทธิเซียนล่ะก็ ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น ลองนึกดู แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงจำนวนมากเช่นนี้ก็ยังตายอนาถภายใต้อันตรายเช่นนี้ เช่นนั้นแล้ว แดนลัทธิเซียนในวันนี้จะมีกำลังไปต่อกรกับอันตรายเช่นนี้รึ?

การคาดเดาเช่นนี้พลันทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดปราศจากความมั่นในทันที

ในเวลานี้มีระดับปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนเท่าไร มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไร กระทั่งแม้แต่เทพแท้จริงชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ถูกทำให้แตกตื่น เมื่อมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจในใจแล้ว

แม้แต่ท่าทางของราชันแท้จริงหวงจุน ราชันแท้จริงเซิ่นซวง และไท่อิ๋นสี่ก็อดที่จะหนักแน่นจริงจังขึ้นมา พวกเขารู้ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ภัยพิบัติสามารถมาเยือนแดนลัทธิเซียนได้ทุกเมื่อ

“ระวังคำพูด” ขณะที่ทุกคนรู้สึกไม่เป็นสุข ได้มีผู้อาวุโส และปฐมบรรพบุรุษออกปากตัดขาดการคาดเดมเช่นนี้ และกล่าวว่า “ปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกร พันล้านปีมานี้มีปฐมบรรพบุรุษทีปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผู้ต่อกรที่เคยเดินทางไกลไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ เช่น เกาหยาง ปราชญ์กระบี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกองทัพใหญ่ของบรรพบุรุษอัคคี กระทั่งแม้แต่ราชันหญิงพิณที่อยู่ในตำนานก็เคยเดินทางไกลปราบปรามไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ ต่อให้ในทะเลปุ๊ตู้ไห่มีอันตรายที่สะเทือนเลื่อนลั่นก็ไม่สามารถต้านได้กับบรรพบุรุษอัคคี และเกาหยางพวกเขาที่ปราศจากผู้ต่อกร…”

“ก็ใช่ พันล้านปีที่ผ่านมา ไม่ต้องพูดถึงราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาล ลำพังแค่ปฐมบรรพบุรุษที่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ก็สามารถกวาดล้างได้เป็นนิรันดร์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษคนแรกเป้าผู่ หรือว่าเกาหยางที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งยากจะหาใดเทียม และหรือปฐมบรรพบุรุษห้าธาตุที่ปาฏิหาริย์ตลอดกาล ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเซิ่นหลิงจู่ ปราชญ์กระบี่ที่เป็นสุดยอดระดับปฐมบรรพบุรุษสูงสุด…”

“…ลองจินตนาการดู เมื่อมีระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นพวกเขาแล้ว ยังมีสิ่งใดในโลกที่ไม่สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้? ” ในเวลานี้ก็มีผู้อาวุโส และยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่ให้การสนับสนุน

คำพูดนี้เมื่อพูดออกมาแล้ว ได้ทำให้จิตใจที่กระวนกระวายใจของทุกคนค่อยยังสงบลงบ้าง

แต่ว่า แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม แม้ว่าบรรดาบรรพบุรุษ ยอดฝีมือจะพูดเช่นนี้ แต่ว่า ภายในใจของพวกเขาไม่ค่อยจะมั่นใจนัก และรู้สึกกังวลในใจอย่างยิ่ง เนื่องจากพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นในนั้นกันแน่ พวกเขาก็ไม่กล้ายืนยันว่าปฐมบรรพบุรุษที่เคยเข้าไปนั้นยังคงอยู่สบายดีหรือไม่

“ดูสิ เรือรบลำนั้น” ในเวลานี้ มีคนที่ร้องเสียงดังขึ้นมา พลันทยอยดึงดูดความสนใจของทุกคนเอาไว้

ทุกคนมองออกไป เห็นเพียงเรือรบลำขนาดยักษ์ลำหนึ่งได้ลอยลำออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ช้าๆ ขณะที่เรือรบลำยักษ์ลำนี้ลอยลำมาช้าๆ นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับเศษชิ้นส่วน และเศษซากก่อนหน้าแล้ว นับว่าเรือรบลำยักษ์ลำนี้รักษาความสมบูรณ์ได้ดียิ่ง

สามารถมองออกได้ว่าเรือรบลำนี้มีการปลุกเสกรบบป้องกันที่ทรงพลังยิ่งเอาไว้ แต่ว่าระบบป้องการบนเรือรบที่ได้รับการปลุกเสกเอาไว้ได้ถูกทำลายไปแล้ว และตัวของลำเรือก็มีส่วนที่เสียหาย แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม อย่างน้อยที่สุดเรือรบยังคงสภาพได้ทั้งลำ ไม่ได้แตกร้าว แม้ว่าบนเรือรบจะมีรูโหว่ก็ตาม อย่างน้อยที่สุดเรือรบลำนี้ยังคงสามารถใช้การได้ต่อไป

ด้วยเรือรบที่คงสภาพได้สมบูรณ์ลำหนึ่งได้ลอยลำออกมาพร้อมกับเศษชิ้นส่วน และเศษซากจำนวนมากเงียบๆ

เรือรบลำนี้มีขนาดใหญ่โตมโหฬารอย่างยิ่ง เมื่อมองจากระยะห่างไกลแล้วก็เหมือนเป็นภูเขายักษ์ที่สูงใหญ่ลูกหนึ่ง ล่องลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ อีกทั้งยังปราศจากซุ่มเสียงคล้ายเป็นเรืออเวจีอย่างนั้น

นั่นเป็นเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวิน…ในขณะนี้มีผู้ที่ตาแหลมได้มองเห็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนเรือรบนั่น

“เป็นเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินจริงรึ? ” ทุกคนทยอยกันมองตามไป เนื่องจากเป็นยุคสมัยที่ผ่านมานานมากแล้ว ต่างก็ไม่กล้ายืนยัน

“เป็นเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินจริงๆ ไม่ผิด คือเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวิน เรือรบลำนี้เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ยิ่งแล้ว น่าจะเป็นเรือรบรุ่นแรก” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะรุ่นอาวุโสหลังจากสังเกตอย่างละเอียดแล้ว กล่าวด้วยความมั่นใจยิ่ง

“ผู้เฒ่าตู้ นี่คือเรือรบระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของท่านใช่หรือไม่? ” ยอดฝีมือ และผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินล้วนอยู่กันที่ด่านเทียนสงกวาน ดังนั้นจึงมีผู้เอ่ยถามขึ้นทันที

ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินคือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิขนาดใหญ่ของแดนลัทธิเซียน มีกำลังที่กล้าแข็งมาก และมีธาตุแท้ภายในลึกซึ้ง

“ถูกต้อง เป็นเรือรบของพวกเรา นี่คือเรือรบรุ่นแรกของพวกเรา” หลังจากได้สังเกตดูมานานมากแล้ว บรรพบุรุษผู้หนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินได้พยักหน้าและกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า ตามบันทึกของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ปฐมบรรพบุรุษของพวกเราเคยเดินทางไกลเพื่อปราบปรามทะเลปุ๊ตู้ไห่ ท่านได้คัดท้ายด้วยตนเอง ที่ติดตามไปด้วยยังมีราชันแท้จริงสามคน เทพแท้จริงคงความอมตะตลอดกาลหกคน เทพแท้จริงอีกส่วนหนึ่ง ยอดฝีมืออีกเป็นพัน”

“นี่หาใช่กำลังที่เล็กๆ เลยนะ” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษผู้นี้

ระดับปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่งเดินทางไกลปราบปราม ยังได้นำพาราชันแท้จริงสามคน เทพแท้จริงคงความอมตะตลอดกาลหกคน เทพแท้จริงอีกส่วนหนึ่ง ยอดฝีมืออีกเป็นพัน ขบวนทัพเช่นนี้นับว่าใหญ่มากแล้ว

แต่ว่ากี่ปีผ่านไปแล้ว ขบวนทัพเดินทางไกลปราบปรามขบวนนี้กลับไร้ข่าวคราว มาวันนี้กลับมองเห็นเรือรบของพวกเขาลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ มาคราวนี้พลันทำให้ในใจของทุกคนไม่สบายใจขึ้นมา

“ปฐมบรรพบุรุษล่ะ? ” ในเวลานี้มีผู้อดที่จะเอ่ยถามสียงแผ่วเบาขึ้นมา

พลันที่พูดคำพูดนี้ออกมา ภายในใจของทุกคนต่างหวั่นไหวขึ้นมา ความจริงแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ เวลานี้เรือรบได้ลอยลำออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว แต่ว่า ขบวนทัพที่เดินทางไกลปราบปรามกับไร้ซึ่งข่าวคราว

“ไป พวกเราขึ้นไปดูกัน” ในเวลานี้บรรพบุรุษผู้นี้ส่งเสียงนำพาศิษย์ในสำนักกระโดดขึ้น มุ่หน้าไปยังเรือรบลำนั้น

“ข้างในยังมีสิ่งใดอยู่อีกรึ? ” มีผู้รู้สึกแปลกใจ เมื่อมองเห็นบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินขึ้นไปบนเรือรบ

ในเวลานี้ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย และทุกคนต่างต้องการรู้ว่า บนเรือรบที่คล้ายดั่งเรืออเวจีเช่นนี้ยังจะมีสิ่งอื่นใดอีกหรือไม่

แย่แล้ว…จังหวะที่ทุกคนเฝ้ารอคอยอยู่นั้น ภายในเรือรบปรากฏเสียงตะโกนดังขึ้นมา ตามติดด้วยเสียงต่อสู้ดังปังปังปังขึ้น

อ๊ากกก…ภายในระยะเวลาอันสั้น เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น จากนั้นก็ได้กลับคืนสู่ความเงียบสงบ เรือรบลำนี้ยังคงล่องลอยไปบนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว? ” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น

แต่ทว่า หลังจากเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นแล้ว เรือรบยังคงล่องลอยอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ และเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

เกิดเรื่องที่แปลกประหลาดขึ้นมาเช่นนี้ พลันทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง ในเวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน ไม่มีใครรู้ว่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบนเรือรบนั่น

“หรือว่าบนเรือรบยังคงมีสิ่งอื่นๆ อีก? ” ผู้คนจำนวนมากที่รู้จักบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิต่างก็รู้ดีว่า บรรพบุรุษผู้นี้มีกำลังความสามารถกล้าแข็งมาก แต่ว่า ดูเหมือนได้ตายอนาถอยู่ภายในเรือรบแล้ว ภายในระยะเวลาอันสั้น

“ข้ากลับไม่เชื่อความชั่วร้าย พวกเราขึ้นไปดูกัน” มีบรรพบุรุษระดับเทพแท้จริงชั้นศักราชผู้หนึ่งคำรามเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

ในพริบตาเดียวนั่นเอง บรรพบุรุษผู้นี้ได้ร่วมกับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งอีกหลายคนได้ทยานขึ้นและเข้าไปในเรือรบลำนั้น

ปัง ปัง ปังจังหวะที่บรรพบุรุษหลายคนได้ขึ้นเป็นบนเรือรบแล้ว ปรากฏเสียงต่อสู้ดังขึ้นเป็นระลอกทันที

มีผี…นาทีนี้เอง ภายในเรือรบได้ปรากฏเสียงตวาดดังขึ้นมา ทุกคนต่างได้ยินเสียงนี้ได้อย่างชัดเจน

มีผี…ทุกคนต่างมองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินตวาดดังขึ้นเช่นนี้ ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร

อ๊ากกก…ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร ภายในเรือรบปรากฏเสียงร้องน่าเวทนาแต่ละเสียงที่ดังขึ้น หลังจากสิ้นสุดเสียงน่าเวทนาดังกล่าวแล้ว เรือรบก็กลับคืนสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง ยังคงลอยลำอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าเงียบๆ

“อ้ายบ้า มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อได้มองเห็นภาพนี้

บุคคลสองกลุ่มได้ขึ้นไปบนเรือรบตามลำดับ แต่ว่า ท้ายสุดแล้วพวกเขาต่างไม่ได้กลับลงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่ปิดฉากด้วยเสียงร้องน่าเวทนาที่ดังขึ้น นับว่าสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงแก่ผู้คนยิ่งนัก

ในเวลานี้ ทั่วทั้งด่านเทียนสงกวานดูเงียบสงัดยิ่งนัก ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา

……………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด