Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3020 สมบัติล้ำค่าลึกลับ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3020 สมบัติล้ำค่าลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3020 สมบัติล้ำค่าลึกลับ

ครั้นร่างเงาของเตาหงส์ได้ตกลงไปในถ้ำยักษ์แล้ว กลิ่นอายของเมืองยักษ์ทั้งเมืองพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที ก่อนหน้านี้ผู้คนรู้สึกว่า ทั่วทั้งเมืองยักษ์มีพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรปกคลุมเมืองยักษ์ที่แตกหักเสียหายแห่งนี้ ในเวลานี้พลันรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายแข็งแกร่งที่ปราศจากผู้ต่อกรสายนี้ได้หายวับกับตาในชั่วพริบตาเดียวไปแล้ว

และเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมเมืองยักษ์ทั้งเมืองเอาไว้ก็ดับวูบไปอีกด้วย เหมือนว่าทุกอย่างล้วนหายตามๆ กันไปสิ้น

เมื่อสิ่งปราศจากชีวิตล้วนแล้วแต่กระโดดตามเข้าไปภายในถ้ำยักษ์แล้ว พลังความมืดสายนั้นที่ตลบอบอวลฟ้าดินแห่งนี้ก็หายตามไปเช่นเดียวกัน

เมื่อกลิ่นอาย และพลังแข็งแกร่งแต่ละสายเหล่านี้หายไปแล้ว เมืองยักษ์ที่แตกหักแห่งนี้ก็ได้กลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมของมัน เต็มไปด้วยสภาพชำรุดทรุดโทรม มีแต่ความเสื่อมโทรมอยู่ทั่วไป นี่เป็นเพียงเมืองที่แตกหักเสียหายเมืองหนึ่งเท่านั้น ให้ความรู้สึกผู้คนของอาทิตย์อัสดง

“สมควรจบสิ้นแล้วรึ?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับพึมพำขึ้นมา เมื่อรับรู้ได้ว่ากลิ่นอายทั้งหมดล้วนจางหายไป และเมืองยักษ์ที่แตกหักทั้งเมืองพลันเสื่อมโทรมตามทันที

“ไม่ ยังไม่จบ” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “นี่เพียงเป็นการเริ่มต้นเท่านั้นเอง แม้แต่โหมโรงก็ยังไม่ใช่ สิ่งที่สมควรมาอย่างไรเสียสุดท้ายก็ต้องมา ทั้งยังใช้เวลาอีกไม่นานอีกด้วย”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับต้องหอบหายใจ ภายในใจของนางถึงกับหนักอึ้ง และจนด้วยเกล้า

ในแดนสามเซียนหากทอดสายตามองไป ด้วยกำลังความสามารถของนางนับว่าแข็งแกร่งเพียงพออยู่แล้ว แม้จะไม่ถึงกับปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า ก็นับว่าได้ยืนอยู่ระดับสูงสุดแล้ว

แต่ว่า ถ้าหากภัยพิบัติมาถึงจริงๆ อาศัยกำลังความสามารถเช่นนี้ของพวกเขา เรียกว่าห่างไกลไม่สามารถต้านทานได้อยู่แล้ว และห่างชั้นที่จะปกป้องโลกนี้เอาไว้ได้ สิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพลังของระดับปฐมบรรพบุรุษ แม้นางจะเป็นราชันแท้จริงสิบสองลัคนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ถึงขั้นพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้อยู่แล้ว

ในเวลานี้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดที่จะมองไปยังหลี่ชิเย่ ภายในใจของนางมีความปรารถนาใหม่ จากการลงมือของหลี่ชิเย่เมื่อครู่ นางเข้าใจได้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีกำลังความสามารถที่จะอาศัยความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้อย่างเด็ดขาด และปกป้องโลกนี้เอาไว้ เพียงแต่เขายินดีลงมือหรือไม่เท่านั้นเอง

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งเท่านั้นเอง มองดูสิ่งของที่อยู่ในมือ ซึ่งสิ่งนี้ก็คือสิ่งที่ถูกฝังอยู่ใต้ถ่านไม้ของเตาหงส์เมื่อครู่นั่นเอง ขณะที่หลี่ชิเย่ได้หยิบเอาสิ่งนี้ขึ้นมานั้น ร่างเงานั้นพลันต้องการแลกชีวิตกับหลี่ชิเย่ทันที

สามารถมองออกได้ว่า สิ่งของสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากไม่เป็นเช่นนี้ร่างเงาร่างนั้นจะไม่ให้ความสำคัญถึงเพียงนี้ และตื่นเต้นกับมันเช่นนี้

พวกกระบือดำขนาดใหญ่ต่างก็มองไปที่สิ่งของสิ่งนี้ในมือของหลี่ชิเย่ มองเห็นเพียงของสิ่งนี้คล้ายดั่งหินหยก และก็เหมือนเป็นกล่องโบราณ บางที่ของสิ่งนี้อาเป็นกล่องโบราณที่แกะสลักมาจากหยก เพียงแต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ตาม ก็ไม่เห็นช่องที่จะเปิดกล่องโบราณใบนี้ได้ เหมือนว่ากล่องโบราณจะเป็นเช่นนี้ตามธรรมชาติ ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดออกได้อยู่แล้ว

“สิ่งนี้มันคืออะไร…” แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์สูง แม้ว่าเขาจะเปิดเนตรฟ้าของตนขึ้นมาก็ไม่สามารถส่องเห็นสิ่งของสิ่งนี้ เหมือนว่าสิ่งของสิ่งนี้ถูกบดบังเอาไว้ด้วยวิธีการที่สุดยอด ทำให้ไม่สามารถส่องเห็นความลึกลับของมันได้

“เป็นของดีชิ้นหนึ่ง” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “วันหน้าต้องได้ใช้มันแน่นอน มีประโยชน์อย่างยิ่ง”

“แหะสมบัติวิเศษที่ยากจะหาใดเทียมรึ?” ดวงตาทั้งสองของกระบือดำขนาดใหญ่ลุกวาว หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “บางที นี่อาจเป็นกุญแจที่สามารถไขความลับของทะเลปุ๊ตู้ไห่ได้” กล่าวพลางดูอยากจะได้มันมาครอบครองอย่างยิ่ง

“หากเจ้าต้องการ ให้เจ้า” เมื่อหลี่ชิเย่เห็นท่าทางของกระบือดำขนาดใหญ่ที่น้ำลายหกเช่นนั้นจึงเหลือบมองทีหนึ่ง และนำสิ่งของสิ่งนี้ยัดให้กับกระบือดำขนาดใหญ่

“จริงรึ?” ทันทีที่กระบือดำขนาดใหญ่ได้ยินคำพูดเช่นนี้พลันมีดวงตาที่สว่างไสว ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายที่แสบตาเหมือนสามารถส่องสว่างไปทั่วหล้าอย่างนั้น

“จริงสิ” หลี่ชิเย่ตามอารมณ์ยิ่งนัก แม้ว่าสิ่งของสิ่งนี้จะยกให้กับกระบือดำขนาดใหญ่เขาก็ไม่ใส่ใจ

“ของดี น่าจะมีที่มาไม่ธรรมดา” กระบือดำขนาดใหญ่ถือสิ่งนี้เอาไว้แล้วพลิกไปพลิกมา ครุ่นคิดพิจารณาอย่างละเอียด แต่ว่า ขณะที่เขาถืออยู่ในมือกลับเหมือนไม่สอดคล้องกับความจริง เหมือนตนเองได้ถือเผือกร้อนอยู่ในมืออย่างนั้น

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นกับสิ่งๆ นี้เช่นกัน เนื่องจากเมื่อครูเห็นได้ชัดว่าร่างเงาร่างนั้นให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากทีเดียว ขณะหลี่ชิเย่หยิบเอาของสิ่งนี้ไปนั้น ดูเขาจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ

นางย่อมสามารถรับรู้ถึงความสำคัญของสิ่งของชิ้นนี้ เพียงแต่แม้นางที่แข็งแกร่งและมีถึงสิบสองลัคนา แม้นางจะเปิดเนตรฟ้าก็ไม่สามารถส่องเห็นสิ่งของสิ่งนี้ได้ ไม่สามารถมองเห็นความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของๆ สิ่งนี้

ขณะที่นางเปิดเนตรฟ้าส่องมองไปยังสิ่งของสิ่งนี้กลับถูกกันให้อยู่แต่ด้านนอก เป็นผลจากบางคนได้วางอภินิหารเอาไว้ ทำการปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้

ผู้ที่สามารถสำแดงฝีมือเช่นนี้ได้ ย่อมต้องเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน และหรือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

วิธีการเช่นนี้เป็นสิ่งที่ราชันเท้จริงสิบสองลัคนาอย่างนางไม่สามารถแก้ไขทำลายได้

“ของดี เป็นของดีจริงๆ” กระบือดำขนาดใหญ่จับเอาสิ่งของสิ่งนี้พลิกกลับไปกลับมา เหมือนถือเผือกที่ร้อนมากอยู่ในมือ

ขณะกระบือดำขนาดใหญ่กำลังพินิจพิเคราะห์สิ่งของสิ่งนี้อยู่นั้น ตัวเขาเรียกได้ว่าน้ำลายไหลยืด มองออกว่าเขาใจเต้นตูมตามกับสิ่งนี้มาก

สายตาคู่นั้นของกระบือดำขนาดใหญ่ร้ายกาจมาก ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า แม้ว่าขณะนี้เขายังพินิจพิเคราะห์ไม่ออกถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของสิ่งของชิ้นนี้เป็นการชั่วคราว แต่ว่า เขาเข้าใจได้ว่าสิ่งของชิ้นนี้สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างยิ่ง

“แหะช่างเถอะ ช่างเถอะ กระบือสุดหล่ออย่างข้าไม่ใช่คนประเภทนั้น” กระบือดำขนาดใหญ่จับของชิ้นนี้พลิกกลับไปกลับมา สุดท้ายก็ส่งคืนให้กับหลี่ชิเย่ ท่าทางเหมือนเป็นผู้ทรงคุณธรรมอย่างนั้น และกล่าวว่า “กระบือสุดหล่ออย่างข้ามีความยุติธรรมซื่อสัตย์ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญกระบือสุดหล่ออย่างข้าจะละโมบยึดเอาของแบบนี้มาเป็นของตนได้อย่างไรกันเล่า ยังคงให้ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เก็บรักษาเอาไว้ดีที่สุด”

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา กับท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายของกระบือดำขนาดใหญ่ จ้องมองเขาด้วยท่าทียิ้มแต้

“อาจารย์ไม่ต้องการจริงๆ รึ?” แม้แต่หลิ่วเยี่ยนไป๋ที่นั่งอยู่บนหลังกระบือก็รู้สึกแปลกใจ นับเป็นครั้งแรกที่นางเห็นอาจารย์ของตนมีท่าทีที่เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายเช่นนี้ นางยังเข้าใจว่าตนเองนั้นตาฝาดไปแล้ว

“แน่นอน” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะอย่างทระนง และกล่าวว่า “อาจารย์เป็นใครมาจากไหน อาจารย์คือกระบือเทพสูงสุด มีสายเลือดเซียนอยู่ในครอบครอง ไหนเลยจะทำเพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยแค่นี้แล้วทำร้ายอาณาประชาราษฎร์ใต้หล้าได้เล่า”

“อาจารย์ยอดเยี่ยมมากเลย” จะอย่างไรเสียหลิ่วเยี่ยนไป๋ยังอ่อนต่อโลก เมื่อเห็นกระบือดำขนาดใหญ่ที่มีท่าทางเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายแล้ว ถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง และเลื่อมใสศรัทธา

“ช่างเถอะ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้า และกล่าวว่า “อย่าไปฟังอาจารย์ของเจ้าคุยโวโอ่อวด เขาก็แค่เกรงว่าจะหาเหาใส่หัวเท่านั้นเอง ข้อนี้เขานับว่าฉลาดมาก ไม่เหมือนพวกไร้สมองบางคน ถูกผลประโยชน์เข้าครอบงำ แม้กระทั่งชีวิตของตนก็เดิมพันเข้าไปด้วย”

อะแฮ่ม อะแฮ่ม อะแฮ่ม…เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่ถูกเปิดโปงด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ทำให้รู้สึกเขินอายมาก หัวเราะแห้งๆ ทีหนึ่งและรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ กระบือสุดหล่อย่างข้าไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ใช่คนแบบนั้น!”

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง มีรึที่เขาจะไม่เข้าใจเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้? หลี่ชิเย่มองแวบหนึ่งก็รู้แล้วว่าเขามีไส้กี่ขด

“ของ ของชิ้นนี้จะนำภัยถึงตัวจริงรึ?” สุดท้าย กระบือดำขนาดใหญ่ยังคงไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจอยู่บ้าง ได้เอ่ยถามหลี่ชิเย่เบาๆ

“ทำไม ยังไม่ยอมเลิกล้มความตั้วใจอีก?” หลี่ชิเย่มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ด้วยท่าทางยิ้มแต้

“ไม่ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแห้งๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็แสดงท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายขึ้นทันที และกล่าวว่า “ข้าน่ะเกรงว่าสิ่งนี้จะเป็นภัยต่อใต้หล้า เป็นภัยต่อใต้หล้า”

“เป็นความจริงที่เป็นภัยต่อใต้หล้าจริง แต่ว่า มันก็มีค่าที่ไร้ขีดจำกัด” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “หากพบคนที่รู้เรื่องนี้ดี เมื่อเป็นเช่นนันมันสามารถขายได้ในราคาที่สูงลิบลิ่ว เชื่อว่าต้องมีผู้ที่ยอมทุ่มค่าตอบแทนไม่อั้นเพื่อครอบครองมัน”

“จริงรึ…” ดวงตาทั้งสองของกระบือดำขนาดใหญ่ลุกวาว ท่าทางอยากได้จนน้ำลายแทบหก

กระบือดำขนาดใหญ่ย่อมไม่ได้โง่ เขามีความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่สิ่งของทั่วๆ ไปเลย ต่อให้เป็นสุดยอดของวิเศษ

สิ่งนี้ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่ามีความล้ำค่าเพียงใด ราคาของมันมีความสะเทือนเลื่อนลั่นเช่นใด

“หากเจ้าอยากได้ มอบให้เจ้าเก็บรักษาก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “บางที คงมีสักวันที่แดนสามเซียนจะได้อาศัยมันอยู่แล้ว แน่นอน เมื่ออยู่ในมือของเจ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ คำพูดของเท่านกระทบกระเทือนกระบือสุดหล่ออย่างข้ามากเหลือเกิน” กระบือดำขนาดใหญ่ไม่พอใจอย่างยิ่งกับคำพูดลักษณะเช่นนี้ และกล่าวว่า “แม้กระบือดำขนาดใหญ่อย่างข้าจะไม่ใช่ประเภทปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์ แต่ว่า ชั่วดีอย่างไรก็เป็นผู้ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง จะเป็นราชันแท้จริงอะไร เป็นผู้คงความอมตะตลอดกาลอะไรก็ช่างไม่ต้องพูดถึง”

คำพูดนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ใช่เป็นการคุยโวโอ้อวด แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างไท่อิ๋นสี่ก็ไม่ได้เขาก็ไม่แคร์ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า เขามีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งเช่นใดแล้ว

“ยังไม่พอ” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เจ้าสมควรทราบว่า ผู้ที่ช้อนเอาหินสีดำขึ้นมาจากทะเลลึกคนนั้น ผู้ที่พวกของเหยียนตี้พบเจอมานั้นเป็นใคร เข้าใจหรือเปล่า?” คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้สีหน้าของกระบือดำขนาดใหญ่เปลี่ยนไป แม้ว่าเขาเพียงต่อสู้กับหินสีดำอย่างรีบเร่งครั้งหนึ่งเท่านั้น เขาก็ได้วางตำแหน่งกำลังความสามารถของหินสีดำได้แล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง ภายในใจของเขาก็ได้วางตำแหน่งที่ชัดเจนแล้วสำรับ ‘คนผู้นั้น’ จากปากของหินสีดำ ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้หาใช่ผู้ที่เขาสามารถต้านทานได้อยู่แล้ว เกรงว่านับแต่อดีตถึงปัจจุบันก็คงมีระดับปฐมบรรพบุรุษไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้

“ยังต้องการอีกหรือไม่?” หลี่ชิเย่โยนของชิ้นนั้นในมือขึ้นลง จ้องมองดูกระบือดำขนาดใหญ่ด้วยท่าทียิ้มแต้

“ไม่ ไม่ แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ล้อเล่นเท่านั้นเอง” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะทันทีและกล่าวว่า “ของลักษณะเช่นนี้ยังจะมีใครเหมาะสมเป็นผู้เก็บรักษามากไปกว่าท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เล่า แน่นอนที่สุด ย่อมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ย่อมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว”

“สมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ สมควรเป็นของคุณชาย” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็ออกปากและช่วยพูดสนับสนุน ในทัศนะของนางมองว่า หลี่ชิเย่คือผู้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในอันที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น

“นังหนู อย่าได้เอาสมบัติล้ำค่ามาวางเดิมพันบนตัวของข้า” สำหรับแนวความคิดของราชันแท้จริงเซิ่นซวงนั้น หลี่ชิเย่เข้าใจทั้งหมด หัวเราะและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แดนสามเซียนสำหรับข้าแล้ว ข้าเป็นเพียงแขกผู้เดินทางผ่านมาเท่านั้นเอง”

“ข้าเชื่อว่า ที่สุดแล้วในโลกนี้ย่อมมีบุคคล และเรื่องราวที่ทำให้คุณชายระลึกถึงอยู่แล้ว” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงยิ้มบางๆ

………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด