Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3049 ปราชญ์กระบี่

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3049 ปราชญ์กระบี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3049 ปราชญ์กระบี่

กำหนดสิบวันยังไม่ถึง แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่วิพากวิจารณ์กันต่างๆ นานาแล้ว กระทั่งมีผู้ที่พนันขันต่อเรื่องแพ้ชนะกันอย่างลับๆ

ผู้ที่ทำการพนันขันต่อลับๆ มีอยู่ไม่น้อยทีเดียว มีผู้ที่เดิมพันว่าคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่เป็นฝ่ายชนะ และก็มีผู้ที่เดิมพันว่าพวกของหมิงหวังฝอเป็นฝ่ายชนะ

“คนโหดอันดับหนึ่งลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ผงาดขึ้นมากะทันหัน เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า ชนะแน่นอน” เหตุผลของผู้ที่แทงว่าหลี่ชิเย่เป็นฝ่ายชนะนั้นง่ายมาก เข้าใจว่าหลี่ชิเย่ต้องชนะอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผู้กล้าสองกรยากจะต้านสี่กร พวกของหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยน ห้าสหายภูผาเมฆาร่วมมือกันเจ็ดคนในโลกนี้ใครเล่าสามารถต่อกรพวกเขาได้?” ผู้ที่แทงว่าฝ่ายพวกของเทพสงครามจินเปี้ยนเป็นฝ่ายชนะก็ง่ายมากเช่นเดียวกัน

“แหะแม้ว่าพวกของหมิงหวังฝอจะมีคนมาก แต่ว่าอย่าลืมไปสิหลี่ชิเย่สังหารพวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มได้อย่างง่ายดาย และเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มยังเป็นศิษย์พี่ของเทพสงครามจินเปี้ยนอีกด้วย” ผู้ที่มั่นใจในตัวหลี่ชิเย่จึงกล่าวเยาะเย้ยขึ้นมาทันที

“เป็นความจริงที่คนโหดอันดับหนึ่งนั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึง และมีมุทะลุดุดันโหดร้ายจริงๆ” มีระดับบรรพบุรุษที่ค่อนข้างสุขุมเยือกเย็น แยกแยะด้วยความมีสติ และกล่าวว่า “แต่ว่า พวกของหมิงหวังฝอก็ใช่จะไปหาเรื่องได้ง่ายๆ หมิงหวังฝอคือเจ้าอาวาสของวัดลังกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้นำของสายพุทธ มีของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรด้านพุทธะเป็นจำนวนมาก ขณะที่เทพสงครามจินเปี้ยนก็คือผู้กุมอำนาจของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน ในมือก็มีอาวุธยอดเยี่ยมเช่นกัน…”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ได้หยุดนิดหนึ่ง และกล่าวต่อไปว่า “…สำหรับห้าสหายภูผาเมฆยิ่งไม่ต้องกล่าวให้มากความ วิชา ‘หวู่เต้าเซียงสิง’ ของพวกเขาได้ขื่อว่าหนึ่งในสุดยอดวิชานับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีผู้ใดสามารถทำลายได้ ฟังว่า ‘หวู่เต้าเซียงสิง’ ของห้าสหายภูผาเมฆนั้นไม่เคยมีวิธีที่จะทำลายได้อยู่แล้ว เกรงว่าคนโหดอันดับหนึ่งก็ทำลายมันไม่ได้”

“วิชาหวู่เต้าเซียงสิงข้าเคยได้ยินบรรพบุรุษภายในนิกายพูดถึง เคล็ดวิชานี้ขึ้นชื่อว่าปราศจากผู้เทียบเทียมนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง” มีผู้เยาว์ได้กล่าวตามขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว

“ศึกครั้งนี้ ผู้ใดจะเป็นผู้กำชัยยังไม่อาจทราบได้” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าคนโหดอันดับหนึ่ง กับพวกของหมิงหวังฝอนั้น พวกเขาใกล้เคียงกันมาก

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงแทงว่าหลี่ชิเย่จะได้รับชัยชนะ เนื่องจากท่าทีระยะนี้ของคนโหดอันดับหนึ่งไม่มีผู้ใดต้านได้ เรียกได้ว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ความโดดเด่นนั้นปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งมีผู้คิดว่านอกเหนือจากพระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้ว ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ยุคปัจจุบันไม่มีผู้ใดเทียมอีกแล้ว

ดังนั้น ก็มีผู้ยกย่องคนโหดอันดับหนึ่งคือบุคคลอันดับหนึ่งใต้พระอาจารย์จินกวง และปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

สมควรทราบว่า พระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูล้วนเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้เทียบเทียมใต้หล้าแล้ว เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรในยุคนี้แล้ว ขณะที่ผู้คนวางอันดับให้เขาอยู่ต่อจากพระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าเป็นการประเมินตัวของคนโหดอันดับหนึ่งที่สูงเด่นเพียงใดแล้ว

แน่นอน มีผู้ที่เดิมพันว่าฝ่ายของหมิงหวังฝอเป็นฝ่ายชนะเป็นจำนวนมากเช่นกัน จะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเป็นหมิงหวังฝอ หรือเทพสงครามจินเปี้ยน และหรือห้าสหายภูผาเมฆ พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร พวกเขาต่างมีผู้คบหาอยู่ทั่วหล้า ผู้คนจำนวนมากต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจพวกเขา กระทั่งมีผู้กล่าวเป็นคำขวัญว่า ต้องเป็นหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนไร้เทียมทานเป็นต้น

เสียงตูม…ดังขึ้น ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังถกกันว่าการนัดหมายสิบวันระหว่างคนโหดอันดับหนึ่ง กับพวกหมิงหวังฝอใครจะเป็นฝ่ายชนะนั้น ทันใดนั้นเอง เกิดการสะเทือนหวั่นไหวโคลงเคลงไปทั่วทะเลเพลิงทีหนึ่ง

ทุกคนต่างถูกการสะเทือนหวั่นไหวโคลงเคลงกะทันหันนี้ทำให้แตกตื่น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างหยุดในสิ่งที่กำลังทำอยู่ แหงนหน้าขึ้นมอง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว…” ทุกคนต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน จะอย่างไรเสียบนลูกอุกกาบาตยักษ์นี้อันตรายมีอยู่ทุกที่

ตูม…นาทีนี้ปรากฏเสียงดังสนั่นขึ้น ทั่วทั้งทะเลเพลิงก็มีการสั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง

“เสียงมาจากบริเวณที่ลึกเข้าไปนั่น ดูนั่นสิ บนยอดเขาสูงลูกนั้นนั่นเอง” มียอดฝีมือที่จ้องมองและร้องเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปข้างหน้า

ณ บริเวณลึกเข้าไปในทะเลเพลิง ภูเขาลูกนั้นตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น ลาวาทั้งหมดของทะเลเพลิงล้วนแล้วแต่ไหลรินมาจากตรงนี้ และภูเขาลูกนี้ก็คล้ายเป็นภูเขาไฟลูกหนึ่งที่พ่นทะลักออกมา ลาวาที่มันได้พ่นทะลักออกมาไม่ขาดสายได้ไหลท่วมไปทั่วฟ้าดิน จึงปรากฏเป็นทะเลเพลิงที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ขณะที่บนภูเขาไฟลูกนี้มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งปักอยู่ แม้ว่ากระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ แต่ว่า ขณะที่มันปักอยู่ที่ตรงนั้นก็คล้ายดั่งกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งที่ชี้ขึ้นฟ้า

เมื่อเข้าไปดูใกล้ จะมองเห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้มีกฎเกณฑ์ล้อมรอบ ร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ยังคงอยู่และทำการสยบอยู่ตรงนั้น เหมือนว่ามันได้สยบมานานเป็นนิรันดร์อย่างนั้น

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้เป็นตัวแทนปณิธานสูงสุด แม้ผ่านไปพันล้านปี มันยังคงปักอยู่ตรงนั้น และร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ของมันยังคงอยู่ เหมือนว่าปราศจากสิ่งใดที่จะไปสั่นคลอนมันได้อย่างนั้น

กระบี่เล่มหนึ่งที่มีลักษณะเช่นนี้แหละที่ปักตรึงอยู่ตรงนั้น พลังผาดโผนที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูง ไม่ว่าใครก็ตามหากเข้าไปใกล้ก็จะถูกพลังกระบี่ที่น่าสยองขวัญดังกล่าวทำร้าย พลังผาดโผนที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงฉีกฟ้าดินจนแยกออก สังหารภูตผีปีศาจทุกประเภท อันธพาลปราศจากผู้เทียบเทียม

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เองบนภูเขาไฟลูกนี้ได้พวยพุ่งประกายขึ้นมาเป็นสายๆ ซึ่งประกายดังกล่าวมีความเจิดจ้า และละลานตาอย่างยิ่ง ทุกๆ ประกายแต่ละสายล้วนมีความแหลมคมอย่างยิ่ง เหมือนว่าสามารถผ่าฟ้าดินออกมาอย่างนั้น

“แผ่กระจายออกมาจากภูเขากระบี่ปราชญ์” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อมองเห็นประกายเช่นนี้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ในเวลานี้กระทั่งมีผู้คนจำนวนมากวิ่งเข้าไปดู

ตึง ตึง ตึง…นาทีนี้ ประกายสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และขณะที่ประกายสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนั้น ฟ้าดินเสมือนดั่งก่อเกิดพายุรุนแรงขึ้นมาสายหนึ่ง และท่ามกลางพายุรุนแรงที่มีเศษโลหะนับไม่ถ้วนที่ปลิวว่อนแบบมืดฟ้ามัวดิน เสมือนดั่งตั๊กแตนนับไม่ถ้วนที่บินเข้ามา

ขณะที่เศษชิ้นส่วนโลหะที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์จำนวนนับไม่ถ้วนปลิวว่อนอย่างมืดฟ้ามัวดินนั้น ได้บดบังท้องฟ้าและปกคลุมพสุธา พลันทำให้ท้องฟ้ามืดเคลิ้มขึ้นมาทันที

“เป็นเทพสงครามจินเปี้ยน…” ทุกคนต่างรู้แล้วว่าเป็นใคร เมื่อมองเห็นเศษชิ้นส่วนโลหะนับไม่ถ้วนที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงท่ามกลางพายุที่โหมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง มีเพียงเทพสงครามจินเปี้ยนเท่านั้นที่มีฝีมือเช่นนี้

ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้น ท่ามกลางเศษชิ้นส่วนโลหะที่ถูกหอบมากับลมพายุและไปตกอยู่บนภูเขาไฟ และเศษชิ้นส่วนโลหะนับไม่ถ้วนได้ไปเกาะอยู่บนกระบี่ปราชญ์ กระทั่งสามารถได้ยินเสียงแกล๊ง แกล๊ง แกล๊งที่ดังขึ้น ขณะที่เสียงดังกล่าวดังขึ้นมานั้น มองเห็นพลังที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงที่แผ่กระจายออกมาจากกระบี่ปราชญ์ล้วนกลับกลายเป็นสมจริงขึ้นทันที

มองเห็นเศษชิ้นส่วนโลหะทั้งหมดเหมือนถูกดูดด้วยพลังแม่เหล็กอย่างนั้น พวกมันไม่เพียงแค่เกาะติดอยู่บนตัวกระบี่ปราชญ์เท่านั้น ยังเกาะติดอยู่กับพลังที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงอีกด้วย และฟ้าดินเสมือนหนึ่งถูกแช่แข็งเอาไว้โดยพลันอย่างนั้น สามารถมองเห็นพลังผาดโผนที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงนับไม่ถ้วนพลันดูสมจริงขึ้นในทันที สามารถมองเห็นประกายที่แสบตานับไม่ถ้วนที่เปล่งออกมา บดบังเหนือฟ้าดิน

พริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งโลกล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงสมจริงประกายโลหะที่เหนือกว่ามีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เหมือนโลกทั้งโลกล้วนถูกประกายเข็มยึดครองเอาไว้ทั้งหมดอย่างนั้น

เมื่อเศษโลหะทั้งหมดได้ไปเกาะติดอยู่กับกระบี่ปราชญ์แล้ว ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น นาทีนี้เศษชิ้นส่วนโลหะที่ไปเกาะติดอยู่ปรากฎรูปเป็นร่างของคนขึ้นมา ร่างของคนผู้นี้ได้เชื่อมติดอยู่กับกระบี่ปราชญ์เล่มนี้ เสมือนดั่งถูกหลอมละลายไปอย่างนั้น

ร่างคนลักษณะเช่นนี้สูงใหญ่ยิ่งนัก ขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เสมือนดั่งเป็นมนุษย์โลหะยักษ์

“เทพสงครามจินเปี้ยน เขา เขาต้องการทำอะไร?” ผู้คนจำนวนมากอดจะตกใจไม่ได้ เมื่อมองเห็นเทพสงครามจินเปี้ยนเกาะติดอยู่กับกระบี่ปราชญ์ และกลายเป็นมนุษย์โลหะยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารคนหนึ่ง

เทพสงครามจินเปี้ยนมีชาติกำเนิดมาจากเผ่าจินเปี้ยน ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดมาก ร่างกายของพวกเขาเกิดจากการประติดปะต่อของชิ้นส่วนโลหะจำนวนมาก ร่างกายของพวกเขาสามารถแยกชิ้นได้ทุกเวลา เหมือนดั่งเทพสงครามจินเปี้ยนนั้นยิ่งมีความยอดเยี่ยมกว่าเสียอีก ร่างกายของเขาสามารถแยกร่างกลายเป็นเศษชิ้นส่วนโลหะจำนวนนับไม่ถ้วนได้ทันที กระทั่งสามารถแยกและกลายเป็นผงโลหะได้

“เทพสงครามจินเปี้ยนต้องการหยิบฉวยกระบี่ปราชญ์เล่มนั้น นี่มันคือกระบี่ประจำตัวของปราชญ์กระบี่ กระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกร” มีระดับบรรพบุรุษพลันเข้าใจได้ทันทีแล้วว่าเทพสงครามจินเปี้ยนต้องการทำอะไรแล้ว เมื่อมองเห็นเทพสงครามจินเปี้ยนเกาะติดอยู่บนตัวกระบี่ปราชญ์ และเชื่อมติดอยู่กับกระบี่ปราชญ์

“นี่คือกระบี่ประจำตัวของปราชญ์กระบี่จริงๆ รึ?” ยอดฝีมือถึงกับกล่าวด้วยความตื่นตระหนก

“เป็นกระบี่ประจำตัวของปราชญ์กระบี่จริงๆ เกรงว่าปราชญ์กระบี่ก็ถูกตรึงสังหารอยู่ที่ตรงนี้” บรรพบุรุษผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “มองเห็นร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ของปราชญ์กระบี่หรือไม่ นี่แหละคือร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรชั่วชีวิตของปราชญ์กระบี่ นอกเหนือจากตัวของปราชญ์กระบี่เองแล้ว ยังจะมีใครสามารถนำเอาร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ของตนมาปักตรึงอยู่ที่ตรงนี้ สยบเป็นนิรันดร์”

“กระบี่ประจำตัวที่ปราศจากผู้ต่อกรของปราชญ์กระบี่นะเนี่ย…” ผู้คนล้วนมีคู่ดวงตาที่สุกสกาว เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้

ทุกคนต่างก็รู้ว่า แม้จะกล่าวว่าปราชญ์กระบี่นั้นมีชาติกำเนิดมาจากแดนลัทธิพรรษะ และเริ่มต้นจากการเป็นปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งของแดนลัทธิพรรษะเท่านั้น แต่ว่า ภายหลังเขากลับกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษของแดนลัทธิเซียน อีกทั้งตลอดชีวิตของปราชญ์กระบี่นั้นหลงไหลอยู่กับร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรในด้านของร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่

กระบี่ประจำตัวที่ปราศจากผู้ต่อกรของปราชญ์กระบี่ก็ปักตรึงอยู่บนภูเขาไฟลูกนี้นี่เอง แล้วจะไม่ให้ผู้คนต้องในเต้นตูมตามได้อย่างไรกันเล่า

“หรือว่าปราชญ์กระบี่ก็เคยมาที่นี่ ขึ้นมาอยู่บนลูกอุกกาบาตลูกนี้ขณะอยู่ในทะเลปุ๊ตู้ไห่” ผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับหวั่นไหวในใจ และกล่าวด้วยความหวาดผวาและตกใจ

“เกรงว่าจะเป็นเช่นนี้” แม้แต่ระดับคงความอมตะตลอดกาลก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

ถ้าหากว่าขณะอยู่ที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ แล้วปราชญ์กระบี่เคยมาที่นี้ ทั้งยังนำเอากระบี่ปราศจากผู้ต่อกรของตน กระบี่ประจำตัวที่ปราศจากผู้ต่อกรมาสยบอยู่ ณ ที่ตรงนี้ เช่นนั้นแล้ว มันได้เกิดเรื่องที่น่ากลัวอะไรขึ้นในครั้งนั้นเล่า

“กระบี่เล่มนี้หากได้ครอบครองก็จะปราศจากผู้ต่อกร” ระดับกษัตราถึงกับน้ำลายไหลยืด เมื่อมองเห็นเทพสงครามจินเปี้ยนที่เกาะติดอยู่กับกระบี่ปราชญ์เล่มนั้น

กระบี่ประจำตัวปราศจากผู้ต่อกรของปราชญ์กระบี่ มันช่างเป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่ทรงพลังอะไรอย่างนั้น มันสามารถเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินอยู่แล้ว

“แหะคิดจะได้ครอบครอง ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น ก่อนหน้านั้นไม่ทราบว่ามียอดฝีมือไม่รู้จำนวนเท่าไรที่ต้องการเข้าใกล้ ต้องการขึ้นไปบนภูเขาไฟ ล้วนแล้วแต่ได้รับบาดเจ็บจากพลังกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูง พวกของหมิงหวังฝอ และเทพสงครามจินเปี้ยนเป็นผู้ที่มาถึงที่นี่เป็นคนแรก พวกเขามาทำความบรรลุอยู่ที่นี่นานมากแล้วก็ไม่มีการลงมือ” มีระดับบรรพบุรุษกล่าวเหยียดหยามสำหรับผู้ที่ต้องการได้ครอบครอง

“ดูท่าเทพสงครามจินเปี้ยนและหมิงหวังฝอคงทำความบรรลุถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมจนทะลุปรุโปร่งได้แล้ว พวกเขาต้องการชิงเอากระบี่ปราชญ์เล่มนี้” มองเห็นร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนที่มีขนาดสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนมีขนาดใหญ่ขึ้น จากการที่ร่างกายโลหะของเขามีการงอกขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่หยุด ร่องรอยร่องรอยวิถีกระบี่ที่เกิดจากการร่ายรำกระบี่ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าตัวเขาเองกำลังจาะหลอมรวมเข้าไปอยู่ในกระบี่ปราชญ์เล่มนี้

มีผู้ที่มองเห็นตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนเองที่คล้ายเป็นโลหะที่หลอมกลั่นเป็นเนื้อเดียวกันกับกระบี่ปราชญ์แล้ว ทำให้ผู้คนชื่นชมด้วยความมหัศจรรย์ เป็นความจริงที่เผ่าจินเปี้ยนเป็นเผ่าที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

“อมิตาพุทธ…” จากการที่ร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นั้น ปรากฎเสียงเอ่ยถึงนามพุทธองค์ดังก้องฟ้าดินขึ้นมา รัศมีพุทธะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

“พวกหมิงหวังฝอจะลงมือกันแล้ว พวกเขาต้องการช่วงชิงเอากระบี่ปราชญ์ไป” ผู้คนจำนวนไม่น้อยร้องเสียงดังขึ้นมา

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด