Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3050 บาตรหมื่นอรหันต์

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3050 บาตรหมื่นอรหันต์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3050 บาตรหมื่นอรหันต์

รัศมีพุทธะไร้ขอบเขต พริบตาเดียวนั่นเอง รัศมีแสงส่องสว่างทั่วทะเลเพลิงอย่างเสมอภาค ท่ามกลางรัศมีพุทธะที่ไม่มีสิ้นสุดปรากฎองค์พระขนาดใหญ่โตมโหฬารขึ้นมา

ร่างทองหมื่นจ้างนี้ก็คือหมิงหวังฝอ หมิงหวังฝอในเวลานี้นาทีนี้สวมจีวรสีทองทั้งองค์ จีวรที่สวมใส่บนตัวคือของวิเศษที่ยอดเยี่ยมมากชิ้นหนึ่ง เป็นจีวรลังกาที่เจ้าอาวาสวัดลังกาแต่ละรุ่นเป็นผู้ได้สวมใส่

บนจีวรลังกาตัวนี้ได้เลี่ยมของวิเศษเอาไว้สิบสามชิ้น ของวิเศษทุกๆ ชิ้นล้วนแล้วแต่เปล่งประกายแวบวับ แผ่พลังพุทธะที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ยามที่ของวิเศษทั้งสิบสามชิ้นเปล่งประกายออกมานั้น ประกายแวบวับดังกล่าวสามารถทำให้คนตาบอดได้

ร่างทองหมื่นจ้างของหมิงหวังฝอไว้ผมทรงอุษณีษะ ด้านหลังมีรัศมีพุทธะ ปรากฏเป็นฉัพพรรณรังสีที่มีพลังพุทธะ เขานั่งอยู่ที่ตรงนั้นโดยมีดอกบัวทองคำรองรับ ดอกบัวทองคำมีกลีบดอกแปดสิบแปดกลีบ ประกายสีทองแผ่กระจาย

ขณะที่หมิงหวังฝอนั่งอยู่ตรงนั้น ลักษณะสูงใหญ่ปราศจากผู้เทียบเทียม รัศมีพุทธส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ยามที่รัศมีพุทธะบนตัวของเขาแผ่กระจายออกมานั้น ได้ขับไล่ความมืดกระจายไปสิ้น เสมือนหนึ่งตัวเขาได้กลายเป็นผู้บงการโลกทั้งโลกอย่างนั้น

รัศมีพุทธะไร้ขอบเขต ส่องสว่างทั่วหล้า ในขณะนี้โลกทั้งโลกเสมือนดั่งได้กลายเป็นแคว้นพุทธะ ทำให้ผู้คนบังเกิดปฏิกิริยาพลุ่งพล่านต้องการกราบไหว้ขึ้นมา

“หมิงหวังฝอ…” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ในทะเลเพลิงต่างทยอยกันพนมมือขึ้น เมื่อเห็นหมิงหวงฝอที่นั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้น แสดงคารวะสูงสุดต่อหมิงหวังฝอ

“อมิตาพุทธ…” มียอดฝีมือจำนวนมากที่เปล่งพระนามพุทธเจ้าตามหมิงหวังฝอคำหนึ่ง ในเวลานี้ เสียงเอ่ยพระนามพุทธเจ้าดังก้องไปทั่วฟ้าดินอยู่เป็นเวลานานไม่จางหาย

นาทีนี้ ทั่วทั้งทะเลเพลิงได้กลับกลายเป็นศักดิ์สิทธิ์อะไรปานนั้น ภายใต้รัศมีพุทธะที่ส่องประกายไปทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ทำให้ผู้คนบังเกิดความรู้สึกพลุ่งพล่านต้องการบวชเป็นพระ ในเวลานี้ทำให้ผู้คนอดนึกถึงคำๆ หนึ่งนั่นก็คือ ทะเลพุทธะไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง!

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมาสำหรับร่างทองหมื่นจ้างหมิงหวังฝอที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น กระทั่งมีผู้ที่แสดงคารวะด้วยการกราบสามครั้งคำนับเก้าครั้ง แสดงความเคารพสูงสุดต่อหมิงหวังฝอ

หมิงหวังฝอในฐานะเจ้าอาวาสของวัดลังกา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้นำของศาสนาพุทธ มีสาวกอยู่นับไม่ถ้วนในแดนลัทธิเซียน เคยได้รับความเลื่อมใสจากผู้คนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะก้าวเดินไปถึงที่ใดก็ตาม ล้วนได้รับการการแสดงความเคารพสูงสุดจาผู้คนเป็นจำนวนมาก

เสียงแว้งค์…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง นอกเหนือจากรัศมีพุทธะที่สาดส่องทั่วหล้าอย่างเสมอภาคของหมิงหวังฝอแล้ว นาทีนี้ บนท้องฟ้าปรากฏอนุภาคพุทธะนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายลงมา ขณะที่อนุภาคพุทธะโปรยปรายลงมานั้น เหมือนหนึ่งมีเอลฟ์นับไม่ถ้วนถูกโปรยปรายลงมายังโลกมนุษย์อย่างนั้น

ในเวลานี้ ทุกคนไม่เพียงแต่อาบเอิบอยู่ภายใต้รัศมีพุทธะ และขณะอนุภาคพุทธะโปรยปรายลงบนตัวของตนนั้น นาทีนี้ทำให้ผู้คนล้วนรู้สึกว่าตนเองค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปในศาสนาพุทธ

พริบตาเดียวนั้นเอง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกได้ถึงพลังพุทธะที่ยิ่งใหญ่ไพศาล ตนเองนั้นเสมือนหนึ่งอยู่ในท่ามกลางทะเลพุทธะที่ไร้ขอบเขต ทำให้ผู้คนมีจิตพลุ่งพล่านอยากจะบวชเป็นพระ

จากการที่รัศมีพุทธะส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค อนุภาคพุทธนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงมา ทำให้พุทธธรรมทั้งหมดคล้ายหลอมรวมเข้าไปในทะเลเพลิง โดยเฉพาะขณะอนุภาคพุทธะตกลงไปในลาวานั้น เหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่ร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบอย่างนั้น คล้ายได้ยินเสียงตุ๋มที่บางเบามากเสียงหนึ่ง และก่อเกิดเป็นคลื่นที่แผ่เป็นวงกว้างออกไป

ดังนั้น เมื่ออนุภาคพุทธะทั้งหมดได้โปรยปรายลงไปในลาวาแล้วนั้น ลาวาถึงกับก่อเกิดเป็นคลื่นที่แผ่เป็นวงกว้างออกไปวงแล้ววงเล่าแลดูงดงาม และอลังการยิ่งนัก จากนั้น อนุภาคพุทธะก็ได้หลอมละลายไปในลาวานั่น

จากการที่อนุภาคพุทธะนับไม่ถ้วนได้โปรยปรายลงม ทำให้มีอนุภาคพุทธะที่หล่นและหลอมละลายเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ขณะที่อนุภาคพุทธะละลายมากขึ้นๆ แม้แต่ลาวาก็ค่อยๆ ถูกพุทธธรรมท่วมจนเปียกไปทั่วอย่างนั้น

สุดท้าย ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ลาวาถึงกับค่อยๆ แผ่เป็นรัศมีพุทธออกมา ในเวลานี้ ทั่วทั้งทะเลเพลิงปรากฎเป็นเส้นรุ้งเส้นแวงที่สลับสับเปลี่ยนไปมา และรัศมีพุทธะผาดโผน ทำให้ทะเลเพลิงที่ผู้คนมองแล้วรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ถึงกับกลับกลายเป็นแผ่นดินพุทธภายในระยะเวลาอันสั้น

ท่ามกลางเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นทะเลเพลิงไม่เพียงแค่แผ่รัศมีพุทธะออกมาเท่านั้น ถึงกับปรากฏเป็นปรากฎการณ์ประหลาดของศาสนาพุทธ ปรากฏเจดีย์เจ็ดชั้น การเทศนาธรรมของภิกษุ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการบรรยายธรรมของหลวงจีน

นาทีนี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ได้ยินเสียงเทศนาธรรมที่ก้องกังวานอยู่ข้างหู ในเวลานี้ทำให้ผู้คนบังเกิดเป็นมโนภาพ เข้าใจว่าตนเองนั้นอยู่ในดินแดนบริสุทธิ์ของศาสนาพุทธ กำลังฟังเสียงสวดมนต์ของพุทธศาสนาอยู่

“นี่เขา เขา เขาคิดจะทำอะไร…” มีผู้ที่รู้สึกตระหนกยิ่งเวลานี้

“เขาต้องการหลอมกลั่นทะเลเพลิง” ระดับบรรพบุรุษมองออกถึงเส้นสนกลใน กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ดูท่าพวกเขาได้มีการเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว ผ่านการทำความบรรลุด้วยเวลาอันยาวนาน ไม่เพียงแต่พวกเขาได้บรรลุสิ้นความลึกล้ำยอดเยี่ยมได้ทั้งหมด ยังได้วางกฎเกณฑ์สัจธรรมเอาไว้ที่ตรงนี้ ที่พวกเขารอคือการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในเวลานี้”

“อมิตาพุทธ…” ในขณะนี้ หมิงหวังฝอได้เอ่ยนามพระพุทธองค์ขึ้น คำเอ่ยนามพุทธองค์ได้ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ดังก้องอยู่ภายในใจของทุกๆ คน ด้วยอานุภาพเช่นนี้ได้ทำให้ภายในใจของระดับบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยถึงกับหวาดผวา

ในขณะนี้ มือหวังหมิงฝอที่ทำท่ามุทราได้หยิบเอาบาตรวิเศษขึ้นมาใบหนึ่ง ถือด้วยมือทั้งสองข้างด้วยความเคารพ

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นบาตรวิเศษพลันพวยพุ่งเป็นรัศมีพุทธะที่ไม่ขาดสายขึ้นมา ปรากฏเงาพุทธะวนรอบกันไป จากการวนรอบสับเปลี่ยนทดแทนกันไปของเงาพุทธะนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างรู้สึกว่าทะเลเพลิงแห่งนี้ได้กลายเป็นแคว้นพุทธที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด มองเห็นพระอาริยะสงฆ์สูงสุดแต่ละองค์ที่บินปรากฏออกมาจากบาตรวิเศษใบนี้ พระอาริยะสงฆ์สูงสุดแต่ละองค์เหล่านี้ได้ลอยอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน ทำการเทศนาธรรมให้กับทุกๆ คน

บาตรหมื่นอรหันต์ จอมกษัตราผู้หนึ่งพลันสามารถจดจำได้แล้ว เมื่อมองเห็นบาตรวิเศษที่อยู่ในมือของหมิงหวังฝอ และร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “สุดยอดของวิเศษประจำวัดลังกา!”

“เป็นบาตรหมื่นอรหันต์จริงๆ…” หลังจากผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยมองเห็นบาตรวิเศษที่อยู่ในมือของหมิงหวังฝอได้ชัดเจนแล้วต่างรู้สึกตกใจ และกล่าวว่า “นึกไม่ถึงว่า หมิงหวังฝอถึงกับนำเอาสุดยอดของวิเศษของวัดลังกามาด้วย”

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในเวลานี้มองเห็นร่างโลหะที่สูงใหญ่ของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันปรากฎแขนขนาดใหญ่แต่ละแขนที่งอกออกมาจากตัวของเขา

ท่ามกลางเสียงดังตูมตามที่ดังตูม ตูม ตูม มองเห็นท่อนแขนแต่ละแขนของเทพสงครามจินเปี้ยนถึงกับยันช่องว่างแต่ละห้องให้เปิดออก และช่องว่างปรากฏประกายที่วูบวาบ และมีปรากฎการณ์ประหลาดเกิดขึ้นแวบวับ ในช่องว่างแต่ละช่องมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น มีเหล่าเทพที่แวบวับ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีท้องฟ้าด้านทิศเหนือ และทะเลเขียวคราม…ที่เป็นปรากฎการณ์ต่างๆ นานาที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก

ดูไปแล้ว ในขณะนี้เทพสงครามจินเปี้ยนคล้ายค้ำฟ้าดินเอาไว้อย่างนั้น แขนแต่ละข้างค้ำยันฟ้าดินเอาไว้แห่งหนึ่ง

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมา…” เทพสงครามจินเปี้ยนคำรามเสียงยาว ปากท่องบ่นคาถา ขณะที่คำพูดของเขาจบลง แขนทุกๆ แขนพลันแผ่กระจายประกายที่ละลานตายิ่งออกมา

เสียงปัง ปัง ปัง…แต่ละเสียงดังขึ้น นาทีนี้แขนแต่ละข้างของเทพสงครามจินเปี้ยนที่ค้ำยันช่องว่างเอาไว้นั้น ถึงกับมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ที่ลงมา โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ต่างมีร่างกายที่สูงใหญ่อย่างยิ่ง ศีรษะค้ำท้องฟ้า เท้าเหยียบพสุธา

แม้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์จะกึ่งเลือนรางกึ่งชัด แต่ว่ากลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของพวกเขานั้น เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมาก ทำให้อาณาประชาราษฎร์ทั่วหล้าต้องกราบไหว้

หลังจากที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ได้ลงมาแล้ว และลงไปอยู่ในมุมแต่ละมุมของทะเลเพลิง เหมือนว่าพลันทำการล้อมทะเลเพลิงทั้งหมดเอาไว้ ทั่วฟ้าดินล้วนเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ขอบเขตเช่นนี้

“เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลง…” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า อดพึมพำขึ้นมาว่า “นี่คือเคล็ดวิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดแก่ผู้อื่นของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน แข็งแกร่งเหลือเกิน”

“พวกเขาต้องการทำอะไร?” มีผู้พึมพำขึ้นมา เมื่อมองเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละคนล้วนยืนอยู่ในแต่ละมุมของทะเลเพลิง

ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากล้วนมองไม่ขาดถึงวิธีการของหมิงหวังฝอ กับเทพสงครามจินเปี้ยน ทุกคนต่างอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้และยืนดูเงียบๆ

นาทีนี้มองเห็นหมิงหวังฝอกับเทพสงครามจินเปี้ยนทั้งสองคนต่างมองตากันและกันทีหนึ่ง สุดท้าย ต่างฝ่ายต่างพยักหน้าหนักแน่น

“เริ่มได้…” หมิงหวังฝอและเทพสงครามจินเปี้ยนสองคนร้องเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน เสมือนต้องการคำรามฟ้าดินให้แหลกละเอียดไป

ตูม…นาทีนี้ทั่งทั้งทะเลเพลิงได้สั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง ตามติดมาด้วยเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังไม่ขาดสาย มองเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาประจำอยู่ตามมุมทุกมุมของทะเลเพลิงต่างทุ่มเทเต็มที่เหมือนต้องการยกเอาทะเลเพลิงขึ้นมาอย่างนั้น

ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย ทุกคนต่างรู้สึกได้ว่าทะเลเพลิงได้มีการสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา ไม่เพียงแต่ทะเลเพลิงที่สั่นไหวโคลงเคลงเท่านั้น ทุกคนยังรู้สึกได้ว่าผืนแผ่นดินกำลังลอยขึ้น เหมือนว่ามีพลังอะไรบางอย่างที่ทำการยกเอาผืนแผ่นดินทั้งหมดขึ้นอย่างนั้น

“พวก พวก พวกเรากำลังลอยขึ้นไปรึ?” มีผู้ที่ร้องกล่าวด้วยความตกใจ เมื่อรับรู้ได้ว่าผืนแผ่นดินถูกยกขึ้นไป

“ถูกต้อง ไม่ผิด” มีระดับบรรพบุรุษกล่าวด้วยความมั่นใจ

“เปิด…” พริบตาเดียวนั่นเอง หมิงหวังฝอ กับเทพสงครามจินเปี้ยนสองคนได้ร้องคำรามเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั้น บาตรหมื่นอรหันต์ในมือของหมิงหวังฝอเปิดออกเต็มที่ ได้ยินเสียงเอี๊ยดดด เอี๊ยดดด เอี๊ยดดดที่เป็นเสียงหนักอึ้งดังขึ้น เหมือนมีหมื่นอรหันต์ที่ร่วมมือกันผลักดันประตูพุทธะที่หนักอึ้งออกไปอย่างนั้น

ขณะที่ประตูพุทธะถูกเปิดออก พลังพุทธที่ไร้ขอบเขตพลันกลับกลายเป็นวังวนที่น่าสยองขวัญยิ่งขึ้นมา และในขณะเดียวกัน ทั่วทะเลเพลิงก็ได้แผ่กระจายรัศมีพุทธะที่เจิดจ้ายิ่งกว่าออกมา

ตูม ตูม ตูมเสียงพลุ่งพล่านดังขึ้นไม่ขาดสาย ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ เห็นลาวาทั้งหมดที่อยู่ในทะเลเพลิงได้กลับกลายเป็นคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงพลุ่งพล่านที่ดังตูมตามนั้น มองเห็นลาวาทั้งหมดเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดพุ่งเข้าหาบาตรหมื่นอรหันต์

บาตรหมื่นอรหันต์เปิดออกเต็มที่ ทำการกลืนกินลาวาที่โหมสาดซัดเข้ามา มะเลเพลิงลาวานี้ช่างใหญ่โตอะไรขนาดนั้น แค่คลื่นลาวาที่โหมสาดซัดทั่วไปก็สามารถซัดเอาดวงดาวบนท้องฟ้าลงมาได้ แต่ว่า บาตรหมื่นอรหันต์ดุจดั่งเป็นหลุมที่ถมไม่เต็ม ทำการกลืนกินคลื่นลาวาที่พลุ่งพล่านและโหมสาดซัดเข้ามา

เวลานี้ ได้ทำให้ผู้คนทั้งหมดมองดูจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นบาตรหมื่นอรหันต์กำลังกลืนกินทะเลเพลิงลาวาอยู่ขณะนี้

“ขึ้น…” เทพสงครามจินเปี้ยนก็ได้คำรามเสียงดังขึ้น แขนหมื่นพันที่ค้ำยันช่องว่างเอาไว้นั้น ทั้งหมดล้วนกำอยู่บนกระบี่ปราชญ์จนแน่ในพริบตาเดียวนี้เอง

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่มือทิ้งหมดที่กำแน่นอยู่บนด้ามจับกระบี่นั้น ในพริบตเดียวเขาได้พยายามอย่างเต็มที่ ทุกคนต่างรู้สึกว่าแผ่นดินได้ทรุดตัวลง เหมือนว่าผืนแผ่นดินถูกเทพสงครามจินเปี้ยนเหยียบจนจมลง

เอี๊ยดด เอี๊ยดด เอี๊ยดด…นาทีนี้ ปรากฏเสียงเคลื่อนที่ที่หนักอึ้งดังขึ้น ภายใต้การดึงอย่างเต็มที่ของเทพสงครามจินเปี้ยน เห็นเพียงกระบี่ปราชญ์ที่ตรึงอยู่บนภูเขาไฟเล่มนั้นถูกดึงขึ้นมาทีละนิดๆ

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด