Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2772 หนึ่งกระบี่สะเทือนไปหมื่นยุค

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2772 หนึ่งกระบี่สะเทือนไปหมื่นยุค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2772 หนึ่งกระบี่สะเทือนไปหมื่นยุค

หนึ่งกระบี่สะเทือนไปหมื่นยุค ภายใต้หนึ่งกระบี่โลกมนุษย์ต้องตกใจหวาดหวั่นพรั่นพรึง

ในวันนี้ ทั่วเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาได้ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด เดิมทีเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาที่มีความเจริญรุ่งเรืองและคึกคักพลันกลับกลายเป็นเงียบสงบขึ้นมา

ลักษณะเช่นนี้ก็คล้ายดั่งฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าวพลันกลับกลายเป็นเย็นสบายอย่างยิ่ง ทุกคนต่างสงบเงียบขึ้นมา แต่ว่า ความเงียบสงบของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาในเวลานี้หาใช่ความเงียบสงบแบบเย็นชุ่มชื่น แต่เป็นความเงียบเสงบที่เกิดจากความสั่นเทาอย่างหนึ่ง

ทั่วทั้งเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขายังคงมีกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่เช่นเดิม แม้จะมีศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางมาจัดการเก็บเอาศพไปแล้ว และทำความสะอาดตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งด้านนอกและด้านใน แต่ทว่า กลิ่นคาวเลือดที่ลอยกระจายอยู่บนอากาศยังไม่สามารถขจัดให้หมดไปได้

ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับร่างสั่นเทา และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อสูดดมกลิ่นคาวเลือดดังกล่าว พึมพำกับตัวเองด้วยสัญชาตญาณว่า “คนโหดอันดับหนึ่ง หนึ่งกระบี่ปราบหมื่นยุค”

กระทั่งเวลานี้ ภาพความทรงจำที่คนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ทิ้งไว้ให้กับผู้คนก็คือ หนึ่งกระบี่ปราบหมื่นยุค ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าเมื่อหนึ่งกระบี่อยู่ในมือ สามารถกวาดล้างเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ไม่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือราชัน ล้วนแล้วแต่สังหารในหนึ่งกระบี่

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว การที่นิกายหู้ซานจงให้กำเนิดปรมาจารย์ผู้นี้ เกรงว่าเป็นลางสังหรณ์ว่าจะผงาดขึ้นมานะเนี่ย” ในวันนี้ มียอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยที่ซุบซิบด้วยความกังขา และมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ได้วิพากวิจารณ์เรื่องนี้เป็นการลับด้วยเสียงแผ่วเบาอยู่

ภายใต้ชื่อเสียงที่โหดร้ายของคนโหดอันดับหนึ่ง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาในวันนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่กล้าวิพากวิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับคนโหดอันดับหนึ่งเสียงดัง แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ สุดยอดอัจฉริยะบุคคลผู้ที่เคยยโสโอหังอย่างยิ่ง ต่างก็เงียบกริบดั่งจั๊กจั่นในหน้าหนาว ไม่กล้าพูดถึงโดยง่ายดาย

“นิกายหู้ซานจงจะผงาดขึ้นมาจริงๆ รึ? ตกต่ำมาเป็นเวลาอย่างยาวนาน ในที่สุดจะกลับไปอยู่ความเจริญรุ่งเรืองในอดีตอย่างนั้นรึ?” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากกล่าวมองไกลไปยังอนาคต

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง แคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะต้องทำการเปิดศึกอย่างองอาจห้าวหาญและโหดร้ายทารุณล้างแค้นต่อคนโหดอันดับหนึ่งแน่นอน!” และมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะคาดการณ์ว่า “ถ้าหากคนโหดอันดับหนึ่งสามารถผ่านการแก้แค้นคราวนี้ไปได้ เช่นนั้นแล้ว เกรงว่านิกายหู้ซานจงคงจะผงาดขึ้นมาจริงๆ แล้ว ไม่แน่นัก อาจเป็นการบ่งบอกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางและแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะก้าวสู่ความตกต่ำนับจากนี้เป็นต้นไป”

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางและแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะก้าวสู่ความตกต่ำ?” มีผู้ที่ตะลึงนิดหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

มีระดับบรรพบุรุษที่มองไปที่ที่ห่างไกล เหมือนว่ากำลังรำลึกถึงประวัติศาสตร์ และกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องประหลาดใจอยู่แล้ว เจริญถึงที่สุดแล้วตกต่ำเป็นหลักกฎเกณฑ์ที่มีมาเป็นพันล้านปี ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางและแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้เจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลายาวนานถึงเพียงนี้แล้ว กำลังจะก้าวสู่ความตกต่ำก็หาใช่เป็นเรื่องแปลกอยู่แล้ว”

“บางทีอาจเป็นเช่นนั้น แต่ว่า หากคนโหดอันดับหนึ่งไม่สามารถผ่านการแก้แค้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางและแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้ล่ะก็ นิกายหู้ซานจงก็จะต้องหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียว” มีผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้มองคนโหดอันดับหนึ่งว่าจะมีอนาคตที่ดีเป็นพิเศษ ยังมีท่าทีที่เป็นผู้ดูชมเหตุการณ์

เป็นไปตามคาด หลังจากที่คนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ทำการกวาดล้างตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจนราบคาบไปได้ไม่นาน ด้านนอกเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาพลันปรากฎเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก

ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามที่หนักอึ้งดังขึ้นก้องไปทั่วนภานับหมื่นนับพันลี้ของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา ในเวลานี้ท้องฟ้าพลันมืดครึ้ม เมื่อทุกคนแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงเรือรบลำขนาดใหญ่โตมโหฬารลำหนึ่งที่แล่นเข้ามาอย่างช้าๆ

สุดท้าย เรือรบลำขนาดใหญ่โตมโหฬารได้จอดทอดสมอบนท้องฟ้าเมืองจู่เฉิงที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา

เมืองจู่เฉิงคือเมืองศูนย์กลางของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา และถือเป็นเมืองเอกที่เป็นศูนย์กลางและใหญ่ที่สุดของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาทั้งหมด มันกินพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตมาก ทอดข้ามภูเขาลูกแล้วลูกเล่า

เสียงปัง…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง นาทีนี้บนท้องฟ้าปรากฏคนผู้หนึ่งที่ลงมาจากบนท้องฟ้า และเหยียบลงบนถนนของเมืองจู่เฉิงอย่างแรง เป็นชายหนุ่มที่สวมชุดเกราะทั้งชุดผู้หนึ่ง ปณิธานการสู้รบฮึกเหิม นัยน์ตาทั้งสองดุเดือดรุนแรง แบกทวนยาวบนบ่าเล่มหนึ่ง ปลายทวนปรากฏกลิ่นอายเยือกเย็นที่คุกคามผู้คน ขณะที่แววตาของชายหนุ่มผู้นี้กวาดผ่านมานั้น คล้ายดั่งปลายทวนที่วาดผ่านมา สามารถเฉือนทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านตาเขาจนราบเรียบ

‘อีจ้าวเหว่ย’ มีผู้ร้องขึ้นมาเบาๆ เมื่อมองเห็นชายหนุ่มผู้นี้ และกล่าวว่า “องค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศมาแล้ว!”

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็คือองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศนั่นเอง และก็คือคู่หมั้นของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง เสียดาย ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางได้เสียชีวิตภายใต้หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ไปแล้ว

ปัง ปัง ปังจังหวะที่อีจ้าวเหว่ย องค์รัชทายาทแห่งแคว้นโบราณยันต์แปดทิศเพิ่งจะร่อนลงที่เมืองจู่เฉิงนั้น ตามติดด้วยเสียงร่อนลงที่ถี่ยิบ มองเห็นเรือรบลำยักษ์เหมือนมีฝนมนุษย์ที่ตกลงมาอย่างนั้น นักรบชุดเกราะคนแล้วคนเล่าที่ลงมาจากฟ้า พลันอาศัยองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศอีจ้าวเหว่ยเป็นศูนย์กลาง กลับกลายเป็นสุดยอดค่ายกลขึ้นมา

เพียงชั่วพริบตาเดียว กองทัพนับพันนับหมื่นได้ลงมาจากท้องฟ้า และกลับกลายเป็นสุดยอดค่ายกลขนาดยักษ์ที่เมืองจู่เฉิง ปณิธานการสู้รบฮึกเหิม กล้าหาญเด็ดเดี่ยว มองจากระยะห่างไกล กองทัพนับพันนับหมื่นทัพนี้ดูไปแล้วก็คล้ายเป็นน้ำหลากเหล็กกล้าอย่างนั้น สามารถพุ่งชนทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตลอดเวลา

‘สุดยอดกองทัพค่ายกลแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ!’ มีผู้รู้สึกเสียวสันหลังวาบในใจ เมื่อมองเห็นกองทัพนับหมื่นนับพันนี้ และกล่าวว่า “กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศก็ถูกโยกมาแล้ว ดูท่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการแก้แค้นให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางจริงๆ เพื่อล้างความอัปยศ”

“เกรงว่าสุดยอดกองทัพค่ายกลจะไม่ได้การ” มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ช่วงห่างนี้ไม่สามารถอาศัยจำนวนคนมาชดเชยกันได้ กำลังทั้งสองฝ่ายต่างกันมาก มันคือช่วงห่างที่บ่งบอกชัดเจน ไม่สามารถก้าวข้ามได้อยู่แล้ว”

“ไม่ทราบว่ามาคราวนี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีผู้ยิ่งใหญ่คนไหนมากันบ้าง” ระดับบรรพบุรุษส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ลำพังอาศัยแค่องค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศกับสุดยอดกองทัพค่ายกลไม่สามารถต่อกรกับคนโหดอันดับหนึ่งได้อยู่แล้ว เกรงว่าคงมาหาที่ตายมากกว่า”

ทุกคนต่างก็ทราบว่า องค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้กลายเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะตั้งแต่หลายปีก่อน ฟังว่าเวลานี้เขาคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นหนึ่งชาติแล้ว ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจยิ่งแล้ว เรียกได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค

แต่ทว่า คนโหดอันดับหนึ่งนั้นน่ากลัวมากเหลือเกิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนประจักษ์แก่สายตา พลันที่เขาลงมือ แม้แต่จู่หวังแห่งดินแดนภาคกลางที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติก็ถูกเขาสังหาร ด้วยกำลังความสามารถเช่นองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ไม่สามารถต่อกรของคนโหดอันดับหนึ่งได้อยู่แล้ว

“ข้าจะต้องล้างแค้นให้กับเฟยเยี่ยนแน่นอน หนี้เลือดต้องล้างด้วยเลือด!” หลังจากที่องค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศลงมายังเมืองจู่เฉิงแล้ว เสียงฆ่าฟันที่เย็นยะเยือกสะท้อนก้องอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองจู่เฉิง

‘เฟยเยี่ยน’ ที่ออกจากปากองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางนั่นเอง นางมีชื่อว่าซั่งกวานเฟยเยี่ยน

แม้ว่าองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศนั้นแข็งแกร่งมากโดยแท้จริง เสียงฆ่าฟันของเขาดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองจู่เฉิง เพียงแต่ภายในใจของผู้คนจำนวนมากมองว่าแนวโน้มไม่สู้จะมีโอกาสมากนัก แม้ว่าองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะมีความโดดเด่นยอดเยี่ยมมาก แต่ยังคงห่างชั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง

ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากคิดว่า หากแคว้นโบราณยันต์แปดทิศไม่มีผู้ยิ่งใหญ่มาด้วยตนเองล่ะก็ ต่อให้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศนำเอากองทัพนับพันนับหมื่นมาเพื่อแก้แค้นให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง ก็เป็นเพียงมารนหาที่ตายเองเท่านั้น ล้วนแล้วแต่มาเพื่อตาย

“ผู้ที่สังหารอนาคตฮองเฮาแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ โทษสมควรประหารเก้าชั่วโคตร!” จังหวะที่ทุกคนไม่ค่อยจะมองว่าองค์รัชทายาทของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะมีแนวโน้มมากมายนัก เรือรบที่ลอยล่องอยู่ลำบนท้องฟ้าพลันถ่ายทอดพระบัญชาจากเรือรบขนาดยักษ์ที่ลอยลำอยู่บนท้องฟ้า

ขณะที่พระบัญชาถูกถ่ายทอดลงมานั้น ได้ยินเสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา พระบัญชาพลันถูกปูลาดออกไป เห็นเพียงคาถาจำนวนนับไม่ถ้วนที่พวยพุ่งขึ้นมา และกลับกลายเป็นสุดยอดบทคัมภีร์สุงสุด มองเห็นตัวอักษรสีทองขนาดยักษ์แต่ละตัวที่ลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า ทุกๆ ตัวอักษรขนาดใหญ่ล้วนแล้วแต่อาศัยคาถาสูงสุดสลักขึ้น เปี่ยมด้วยอานุภาพสูงสุด ทุกๆ อานุภาพที่เปล่งออกมานั้น เสมือนหนึ่งสามารถกดทับเหล่าชั้นฟ้าจนพังทลายลงมาทั้งสิ้น

ขณะที่พระบัญชานี้ถูกถ่ายทอดลงมานั้น เสียงนี้ได้ดังก้องอยู่ทั่วฟ้าดิน ในเสี้ยววินนาทีนั่นเอง ร้อยเผ่าพันธุ์พันสำนัก และประชาชนนับล้านล้านคนพลันได้ยินเสียงนี้ และได้รับคำบัญชานี้

เหมือนว่าขณะที่พระบัญชานี้ถูกถ่ายทอดลงมานั้น มันก็ได้ถูกสลักเอาไว้กลางใจของทุกคน โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยหูไปสดับตลับฟัง และไม่ต้องอาศัยตาไปมองดู

ขณะที่พระบัญชานี้ถูกถ่ายทอดลงมานั้น ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารได้พวยพุ่งประกายขึ้นมา ผืนแผ่นดินทุกๆ ตารางนิ้วล้วนแล้วแต่แผ่กระจายพลังสัจธรรมขึ้นมา พลังยิ่งใหญ่มหาศาล เหมือนว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งหมดพลันฟื้นตื่นขึ้นมาอย่างนั้น

ภายใต้พลังที่ยิ่งใหญ่มากมายมหาศาล ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นถูกท่วมจนจมมิดในชั่วพริบตา ภายใต้ทะเลพลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าตนเองนั้นช่างเล็กจิ๋วอะไรปานนั้น ช่างไม่คู่ควรจะกล่าวถึงอะไรอย่างนั้น

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกสยบเอาไว้โดยพลัน เมื่อได้ยินเสียงพระบัญชานี้ มีผู้ที่เข่าอ่อนทั้งสองข้างไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงอยู่แล้ว พลันคุกเข่าลงกับพื้นทันที

“นี่เป็นใครกัน ถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้…” อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปเลย ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิเมื่อได้ยินพระบัญชานี้แล้วยังต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เข่าอ่อนทั้งสองข้าง ยากจะรองรับกับอานุภาพเช่นนี้ได้

“ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต!” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งจดจำเสียงนี้ได้ ถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง และเสียวสันหลังวาบ กล่าวด้วยความหวาดผวาว่า “เขาปรากฏตัวขึ้นอีกแล้ว”

ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เมื่อได้ยิน “ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต!” ฉายานี้ ร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง มีสีหน้าขาวซีด และกล่าวว่า “ระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์!”

“ถูกต้อง เป็นเขาไม่ผิดแน่ ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตที่เคยดำรงตำแหน่งราชครูแห่งแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ!” มีระดับบรรพบุรุษที่จดจำเจ้าของเสียงนี้ได้แล้วว่าเป็นผู้ใดเช่นกัน พลันมีใบหน้าที่ซีดเผือด

ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมด ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตเสมือนดั่งเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดอย่างนั้น และเป็นระดับคงความอมตะตลอดกาลที่มีอยู่เพียงไม่กี่คนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตเคยเป็นราชครูของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ภายหลังได้ปลีกตัวออกจากยุทธภพไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก แต่ทว่า เมื่อแคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีภัยก็จะเชิญเขากลับลงเขาอีก เป็นเช่นนี้สลับไปมา ทำให้ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตเคยเป็นราชครูของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศถึงสี่สมัย

ด้วยเหตุนี้เอง ขณะแคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีภัย ผู้ที่ทุกคนนึกถึงเป็นคนแรกก็คือยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต

ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตในฐานะที่เป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล ต้องนับว่ามีกำลังความสามารถยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า ทุกๆ ครั้งที่แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีภัย เขาสามารถอาศัยความพยายามอย่างสุดความสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ทุกครั้ง สามารถปราบและสยบภัยสงครามที่วุ่นวายได้ทุกครั้ง

เรียกได้ว่าในแคว้นโบราณยันต์แปดทิศนี้ ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมีฐานะที่สูงส่งยากจะหาผู้ใดเทียม เขาคือผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดภายในใจของศิษย์ทุกคนในแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ

มาวันนี้ ทุกคนยังเข้าใจว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศคงจะส่งระดับบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่ง หรือหลายคนมาแก้แค้นให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ถึงกับเป็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมาด้วยตนเอง

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *