Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2773 ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2773 ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2773 ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต

ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตพลันสยบจิตใจของทุกคนเอาไว้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องสั่นเทาในใจทีหนึ่ง ขณะแหงนหน้ามองดูเรือรบลำนั้นที่อยู่บนท้องฟ้า แววตาเปี่ยมไปด้วยความเคารพยำเกรง

“ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนะเนี่ย คราวนี้ก่อเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ ใครจะไปนึกว่ายันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตจะมาด้วยตนเองกันเล่า?” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิต่างรู้สึกเคารพยำเกรงยิ่งนัก

“ได้ยินมาว่า ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตคือชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์คนหนึ่ง พลันที่เขาลงมือล่ะก็ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า แม้แต่ราชันแท้จริงที่ยากจะหาใดเทียมใต้หล้ายังคงให้ความเคารพยำเกรงต่อเขา” มียอดฝีมือเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ

“เป็นจริงดังว่า ในฐานะที่เป็นชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของพวกเราเท่านั้น ต่อให้ทอดสายตาไปในแดนลัทธิเซียนก็ยังคงเป็นบุคคลที่แข็งกร้าวและพาลปราศจากผู้ตอกรคนหนึ่ง เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน” ในฐานะที่เป็นระดับบรรพบุรุษ เคยเห็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตลงมือกับตาของตนเองมาแล้ว เมื่อเอ่ยถึงอดที่จะมีท่าทีของความเคารพยำเกรงไม่ได้

“เช่นนั้นแล้วยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมิเท่ากับเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเรา ปราศจากผู้ต่อกรทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร” ยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่บังเกิดความเคารพยำเกรงขึ้นภายในใจด้วยตนเอง

“เรื่องนี้ไม่แน่เสมอไป” ระดับบรรพบุรุษทำท่าลังเลนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ในช่วงหลายยุคที่ผ่านมา หากจะกล่าวว่าใครคือบุคคลอันดับหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเรา ต้องยกให้เจียงฉางฉุนเป็นคนแรก!”

“เจียงฉางฉุน…” ยอดฝีมือที่เป็นผู้เยาว์ถึงกับเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา และกล่าวว่า “เจียงฉางฉุนยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกรึ? เล่าลือกันว่าเขาหายสาบสูญไปหลายยุคสมัยแล้วมิใช่รึ?”

ฉายาเจียงฉางฉุนนับว่ามีพลังอำนาจที่ยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้าที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร การดำรงอยู่ของเขานั้น เคยทำให้ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารต้องแสดงความเคารพเต็มรูปแบบ

ในประวัติศาสตร์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร นอกเหนือจากผู้เฒ่าอมตะผู้เป็นปฐมบรรพบุรุษแล้ว คนแรกที่จะเอ่ยถึงก็คือเจียงฉางฉุนแล้ว!

ชื่อของเจียงฉางฉุนชื่อนี้เปี่ยมด้วยเสน่ห์ แต่ทว่า นี่หาใช่เป็นชื่อจริงของเขา ชื่อจริงของเขาคือเจียงป้า แต่ว่าผู้คนในยุคหลังไม่มีใครจดจำชื่อของเขาได้อีกแล้ว ทุกคนทราบแต่เพียงว่าเขานั้นมีชื่อว่า ‘เจียงฉางฉุน’ เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุด!

อย่าว่าแต่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแลย ต่อให้ทอดสายตาไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน เจียงฉางฉุนก็ยังคงเสมือนดั่งเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสยิ่งที่ลอยอยู่สูงเด่นดวงหนึ่งบนประวัติสายน้ำแห่งกาลเวลาของแดนลัทธิเซียน

เจียงฉางฉุนนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์นับไม่ถ้วน เขาได้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลตั้งแต่อายุได้สิบสองขวบ อายุยี่สิบห้าก็สามารถเอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษได้ นั่นก็คือปฐมบรรพบุรุษเจินเหยียน!

ความสำเร็จเช่นนี้ช่างปราดเปรื่องน่าทึ่งเพียงใด ช่างปราศจากผู้ใดเทียมในหล้าเช่นใด และด้วยเหตุนี้เอง เจียงฉางฉุนจึงถูกจัดให้อยู่ในทำเนียบสิบผู้มีความเจิดจรัสนิรันดร์กาล กระทั่งมีผู้กล่าวว่า ท่ามกลางทำเนียบสิบผู้มีความเจิดจรัสนิรันดร์กาลนั้น เขาสามารถจัดอยู่ในห้าอันดับแรก

“ไม่ทราบ” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษก็ต้องแหงนหน้ามองเมื่อเอ่ยถึงเจียงฉางฉุน กระทั่งเรียกได้ว่าให้ความเคารพทั้งกายและใจ ท่าทางหนักแน่นจริงจัง และกล่าวว่า “มีคำเล่าลือว่า เจียงฉางฉุนได้ก้าวทะลุชั้นหย่วนเต้า กลายเป็นผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุด และได้ไปจากแดนลัทธิเซียนแล้ว และก็มีผู้ที่กล่าวว่าเจียงฉางฉุนติดอยู่ที่คอขวดของชั้นหย่วนเต้าไม่สามารถขยับก้าวหน้าได้อีกแม้เพียงครึ่งก้าว สุดท้าย ได้ละสังขารไปในท่านั่งกรรมฐาน ณ ที่ใดที่หนึ่งที่ไม่มีผู้ใดทราบ”

“หย่วนเต้า…” ไม่ทราบว่ามีเทพแท้จริงจำนวนเท่าไรที่รู้สึกนับถือขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เปี่ยมด้วยความเคารพอยู่ในใจ

หย่วนเต้าที่เป็นทั้งชื่อเรียกขานของระดับชั้นๆ หนึ่ง และเป็นทั้งผู้ที่มีความเจิดจรัสยากจะหาผู้ใดเทียม

ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลมีลำดับชั้นอยู่หลายชั้นด้วยกัน จากต่ำไปสูงได้แก่ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้น ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูง และชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด

ในอดีตนานมากมาแล้ว ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนั้นจะสุดแค่ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด กล่าวได้ว่า ในยุคสมัยเช่นนั้น ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดจะเป็นระดับชั้นที่สูงที่สุดแล้ว ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้อีกแล้ว

กระทั่งในภายหลัง ได้ปรากฏคนผู้หนึ่ง ซึ่งก็คือหย่วนเต้านั่นเอง! คนผู้หนึ่งที่มีความปราดเปรื่องน่าทึ่ง คนผู้หนึ่งที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า เขาเคยสรรสร้างความมหัศจรรย์ที่ยากจะหาผู้ใดเทียมนับไม่ถ้วน ก้าวข้ามชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดไปได้

ที่สร้างความหวั่นไหวต่อผุ้คนยิ่งกว่าก็คือ หย่วนเต้าได้เอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษ ชั้นลัทธิเซียนได้ ซึ่งก็คือปฐมบรรพบุรุษเทียนถง!

และนี่ก็คือหนึ่งเดียวในโลกที่อาศัยระดับเทพแท้จริงเอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิเซียนได้ แม้ว่าในประวัติศาสตร์สายน้ำแห่งกาลเวลาเคยปรากฎระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนมาก และเคยมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่เอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษมาได้ แต่ว่า ล้วนแล้วแต่เป็นปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษทั้งสิ้น

ขณะที่หย่วนเต้ากลับเป็นหนึ่งเดียวที่เคยเอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียนได้นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ชนรุ่นหลังจึงรู้ว่าระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลไม่ได้สุดอยู่แค่ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด ในขั้นสูงสุดนี้ยังสามารถบุกทะลวงฝ่าไปได้อีก ระดับดังกล่าวที่ว่าก็คือ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นหย่วนเต้า!

ระดับนี้อาศัยชื่อหย่วนเต้ามาเป็นชื่อ นอกเหนือจากเป็นการแสดงความเคารพต่อเขาแล้ว ยังเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้สร้างระดับนี้ขึ้นมา

เมื่อมีการเอ่ยถึงเจียงฉางฉุน เอ่ยถึงหย่วนเต้า ในขณะนี้บรรยากาศดูจะมีความเข้มงวดอย่างยิ่งผู้เยาว์จำนวนมากต่างให้ความเคารพกับสิ่งนี้

“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในเมื่อยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมาถึงแล้ว นี่ก็คือระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศแล้ว และเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ซึ่งจะต้องก่อเกิดศึกใหญ่ที่สะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นอย่างแน่นอน” สุดท้ายระดับบรรพบุรุษผู้นี้กล่าวสรุปเช่นนี้

“ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมาถึงแล้ว ทางแคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องไม่ยอมเลิกราอย่างเด็ดขาด นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงปณิธานการล้างแค้นของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศให้เห็นอย่างสิ้นเชิงแล้ว” มีระดับจอมกษัตราได้ทอดถอนใจขึ้นมา

ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจได้ การที่ตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางถูกถล่มราบคาบ ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางในฐานะว่าที่ฮองเฮาในอนาคตของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศถูกสังหาร ซึ่งไม่อาจให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางและแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะตกต่ำลงหรือไม่

เวลานี้ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการแสดงให้ผู้คนทั่วหล้าได้เห็นว่า แคว้นโบราณยันต์แปดทิศยังคงเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งมากที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ไม่มีใครสามารถท้าทายได้ และไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้!

“ผู้สังหารศิษย์ข้า ต้องถูกสังหารเก้าชั่วโคตร!” ในขณะที่ทุกคนกำลังถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหวกับการมาถึงของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตอยู่นั้น ในเวลานี้เอง บนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารปรากฎเสียงที่แผ่วเบาดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง

ตามติดด้วยเสียงตูมที่ดังสนั่น เห็นเพียงปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าเหนือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง ในเวลานี้เหมือนว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางอยู่แค่ตรงหน้าของทุกคนนั่นเอง มันเหมือนอยู่ห่างทุกคนใกล้มาก แค่เอื้อมมือไปก็สามารถสัมผัสได้อย่างนั้น

จังหวะที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นมานั้น มองเห็นผู้เฒ่าผู้หนึ่งก้าวเท้าขึ้นมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง ผู้เฒ่าผู้นี้มีผมเผ้าขาวโพลน สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผู้พบเห็นรู้ได้ทันทีว่าเขาอยู่ในลักษณะของไม้ใกล้ฝั่งแล้ว กระทั่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว กระทั่งยืนได้ไม่มั่นคงนัก ไม่แน่นักหากไม่ทันระวังแค่เท้าลื่นก็ล้มหัวฟาดพื้นตายได้

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางอยู่ห่างจากเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาไกลมาก แต่ว่าภายใต้การก้าวเท้าของผู้เฒ่าเพียงก้าวเดียว ก็ก้าวเข้าสู่เมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาได้แล้ว ก้าวเท้าก้าวเดียวเข้าไปอยู่ในเรือรบลำใหญ่โตมโหฬารที่อยู่บนท้องฟ้าของเมืองจู่เฉิง

“เขาเป็นใคร…” ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างจำเขาไม่ได้ เมื่อมองเห็นผู้เฒ่าที่ผมเผ้าขาวโพลนผู้นี้ พลันที่มองเห็นก็เหมือนเป็นผู้ที่ใกล้จะตายอยู่แล้ว และไม่รู้ว่าเขาคือระดับบรรพบุรุษคนไหนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง

“ยินดีต้อนรับผู้เฒ่าเซียน” ขณะที่ผู้เฒ่าที่ผมเผ้าขาวโพลนผู้นี้ก้าวเท้าก้าวเดียวเข้าไปในเรือรบขนาดยักษ์นั้น เสียงของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตได้ดังขึ้น

“ผู้เฒ่าเซียน…” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งตะลึงนิดหนึ่ง ส่งเสียงดังขึ้นมาด้วยความหวาดผวาว่า “ข้ารู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาก็คือผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง! ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง”

“ผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง…” มีระดับบรรพบุรุษถึงกับกล่าวด้วยความตระหนกวา “เขาตายไปแล้วไม่ใช่รึ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่บนโลก?”

“ดังนั้น ทุกคนก็ไม่มั่นใจมิใช่รึ?” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้กล่าวว่า “ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางยังคงมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลหรือไม่ เนื่องจากระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลผู้นี้ก็คือผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง! ไม่นึกไม่ฝันว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ดูท่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเองก็มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอย่างแท้จริงเสียแล้ว”

ผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางเป็นผู้เฒ่าที่มีอายุยืนยาวมาก เคยก้าวข้ามยุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า เขาเป็นผู้อยู่ในระดับชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้น

แม้ว่ากำลังความสามารถของผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางไม่เท่ายันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต แต่ทว่า หากว่ากันด้วยเรื่องอาวุโส เกรงว่าในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารคงไม่มีใครล้ำหน้ามากไปกว่าเขาได้อีกแล้ว

ก่อนหน้านั้นนานมาแล้ว ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางได้เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากอายุขัยของเขาเหือดแห้งไปนานแล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ แน่นอน ในใจของทุกคนย่อมเข้าใจ เพื่อให้ผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางคงมีชีวิตอยู่ต่อไป เกรงว่าทางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางได้จ่ายค่าตอบแทนที่น่าตกใจมากทีเดียว

จะอย่างไรเสีย การที่จะให้ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่สุดยอดยากจะหาผู้ใดเทียมผู้หนึ่งได้ต่อชีวิตออกไป จะต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรและกำลังคนที่ยากจะจินตนาการได้

แม้ว่าการต่อชีวิตของระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจำเป็นต้องแลกด้วยค่าตอบแทนที่น่าตกใจยิ่ง แต่ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่คุ้มค่า เมื่อสำนักหนึ่งมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอยู่ในครอบครอง ย่อมมีความหมายที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน กล่าวได้ว่า การมีกับไม่มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ธาตุแท้ภายในและกำลังความสามารถของสองสำนักก็จะอยู่กันคนระดับอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว

สำนักที่มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลย่อมสามารถบดขยี้สำนักที่ไม่มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลได้โดยสิ้นเชิง

ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคนมาพร้อมกัน…ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เมื่อมองเห็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางต่างมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน พลันรู้สึกว่าอากาศเหมือนเบาบางลง

ยามที่มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคนอยู่บนท้องฟ้านั้น ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีพลังที่หนักอึ้งกดทับอยู่กลางใจของตนอย่างนั้น เหนือศีรษะมีพลังที่สูงสุดสยบตนเองเอไว้อย่างนั้น ทำให้หายใจหอบไม่ทัน

“คนโหดอันดับหนึ่งไหวรึ?” ในเวลานี้ทุกคนต่างทอดสายตาไปบนตัวของหลี่ชิเย่

ก่อนหน้านั้น ความไร้เทียมทานของคนโหดอันดับหนึ่งนั้นเป็นที่คุ้นเคยของทุกคน และทุกคนก็ได้เห็นกับตามาว่า คนโหดอันดับหนึ่งอาศัยหนึ่งกระบี่กวาดล้างตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง หนึ่งกระบี่สังหารจู่หวังผู้แห่งดินแดนภาคกลาง

ดังนั้น ภายในใจของทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า เป็นความจริงที่หนึ่งกระบี่ของคนโหดอันดับหนึ่งนั้นปราศจากผู้ต่อกร ขอเพียงเขามีหนึ่งกระบี่ในมือ เกรงว่าการล้างแค้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และแคว้นโบราณยันต์แปดทิศยากจะเป็นจริงได้

แต่ทว่า เวลานี้สิ่งที่ทำให้ผู้คนนึกไม่ถึงก็คือ ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของพวกเขาจะมาด้วยตนเอง เพื่อแก้แค้นให้กับผู้เยาว์ที่ตายไปของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดคิดของทุกคน

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่กล้าจะจินตนาการ กล่าวสำหรับสำนักสักแห่งแล้ว เว้นแต่จะเป็นภัยถึงขั้นสำนักจะถูกทำลาย และหรือภัยพิบัติใหญ่กำลังจะมาเยือน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจึงจะลงมือ โดยปรกติแล้วระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจะปรากฎตัวน้อยมาก จะอย่างไรเสียอายุขัยของพวกเขามีความล้ำค่ายิ่ง เวลาเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ของพวกเขา

กล่าวได้ว่า แค่ผู้เยาว์ตายไปคนหนึ่ง โดยพื้นฐานแล้วในฐานะที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏตัวออกมาแก้แค้นให้กับเขา

เวลานี้ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตปรากฏตัวแล้ว ผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางปรากฎตัวแล้ว พวกเขาต้องการแก้แค้นให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง รูปแบบเช่นนี้นับว่ายิ่งใหญ่มากพอ และเพียงพอที่จะสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน

……………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *