Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2808 ทำให้กลายเป็นมาร

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2808 ทำให้กลายเป็นมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2808 ทำให้กลายเป็นมาร

หลี่ชิเย่หัวเราะขณะมองดูกระบี่ล้างบาป และกล่าวว่า “กระบี่นี้คือกระบี่ที่ยอดเยี่ยม วางไว้ที่นี่ออกจะสิ้นเปลืองไปนิด”

“ไม่เช่นนั้นจะทำอย่างไรได้?” จ้าวชิวสือถึงกับหัวเราะด้วยความขมขื่นว่า “ไม่มีใครสามารถนำมันติดตัวไปได้ มันก็คือของวิเศษประจำสถาบันศึกษาของพวกเรา”

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า กระบี่ล้างบาปคือกระบี่ประจำตัวของปฐมบรรพบุรุษหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ลองนึกภาพดู ปราชญ์ไกลกันดารอยู่ในฐานะเช่นใด? เคยทำให้แสงสว่างส่องสว่างทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนอย่างเสมอภาค กระบี่ประจำตัวของเขาจะมีความแข็งแกร่งเพียงใด

ถ้าหากสามารถครอบครองกระบี่ปฐมบรรพบุรุษเล่มนี้ได้ มันคือเรื่องที่แข็งแกร่งเพียงใด หนึ่งกระบี่สำแดงออกไป สามารถปราบใต้หล้าจนราบคาบ

ความจริงแล้ว ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมาก็เคยมีนักศึกษาของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากต้องการครอบครองกระบี่ล้างบาปเล่มนี้ แต่ว่า ไม่มีใครสามารถยกกระบี่ล้างบาปเล่มนี้ขึ้นมาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะนำมันติดตัวไปและครอบครองเป็นของตน

‘กระบี่ล้างบาป’ เวลานี้หลี่ชิเย่มองดูรูปแกะสลักที่ก้มหน้า แม้ว่ารูปแกะสลักนี้จะก้มหน้าอยู่ และมองหน้าตาไม่ชัดเจน แต่ว่า หลี่ชิเย่ยังคงรู้ว่าเป็นใคร ถ้าหากว่ามีผู้ที่เคยดูการต่อสู้ที่ไกลกันดารในครั้งนั้นที่สิบสามทวีปมาอยู่ที่นี่ล่ะก็ จะต้องรู้สึกตกใจเมื่อเห็นรูปแกะสลักรูปนี้แล้ว และจะต้องจดจำรูปแกะสลักรูปนี้ที่อยู่ตรงหน้าว่าเป็นใคร

“ล้างบาป” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยอมุมปากทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ที่ล้างคือบาปอะไรเล่า?”

พวกจ้าวชิวสือเองก็ถึงกับต้องนิ่งเงียบ พวกเขาที่เป็นนักศึกษาเหล่านี้ไหนเลยสามารถรู้ได้ ตั้งแต่พวกเขาถือกำเนิดขึ้นมาก็รู้ว่าสถานที่ตรงนี้คือเมืองล้างบาป สถาบันศึกษาล้างบาป ส่วนที่ว่าล้างบาปอะไรนั้น ไม่มีใครรู้ บางทีอาจมีเพียงปฐมบรรพบุรุษปราชญ์ไกลกันดารเองเท่านั้นที่รู้

“ที่ล้างก็คือกากเดนความชั่วร้ายเช่นพวกเจ้า!” ในเวลานี้เอง เสียงที่น่าเกรงขามเสียงหนึ่งดังขึ้น เห็นเพียงคนผู้หนึ่งที่วิ่งเข้ามาที่นี่

“เป็นลู่ซื่อเม่า…” บรรดานักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างร้องเสียงหลงขึ้นมาเมื่อมองเห็นคนผู้นี้ นักศึกษาจำนวนมากต่างทยอยกันก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ออกห่างจากตัวเขาให้มากหน่อย

ผู้ที่มาด้วยท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็คือลู่ซื่อเม่านั่นเอง กับลู่ซื่อเม่านั้น นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปล้วนแล้วแต่ไม่ชอบเขา และนักศึกษาจำนวนมากต่างทยอยกันถอยหลังไปหลายก้าว

ลู่ซื่อเม่าหาใช่นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาป พวกเขาแค่ออกมารับการขัดเกลาทดสอบ และอาศัยอยู่ในสถาบันศึกษาล้างบาปเป็นการชั่วคราว

ลู่ซื่อเม่าที่เป็นพวกนักศึกษามาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ พวกเขาดูถูกนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปอยู่ในใจลึกๆ อยู่แล้ว พวกเขามองว่าตนเองนั้นสูงเด่นเหนือกว่าขั้นหนึ่ง โดยมองว่านักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปล้วนแล้วแต่เป็นทายาทรุ่นหลังของพวกคนโหดที่ก่อคดีเหล่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง ภายในใจของพวกนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปก็ไม่ชอบพวกของลู่ซื่อเม่า ได้แต่หวานอมขมกลืนไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้ารีบสารภาพมาเร็วๆ” เวลานี้ ลู่ซื่อเม่าวิ่งเข้ามาด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สองตาจ้องถมึงเหมือนจะพ่นออกมาเป็นเพลิงแห่งความโกรธอย่างนั้น

“รุ่นพี่ลู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ?” จ้าวชิวสือรีบเข้าไปขวางลู่ซื่อเม่าที่วิ่งเข้ามาด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และพูดไกล่เกลี่ยว่า “ช่วงเวลาที่ผ่านมา ศิษย์น้องหลี่ไม่ได้ออกจากห้องเลย เกรงว่าเขาคงไม่ได้ไปล่วงเกินศิษย์พี่กระมัง”

จ้าวชิวสือได้รับการมอบหมายจากอธิการบดีให้ดูแลหลี่ชิเย่ให้ดี เขาย่อมไม่สามารถมองดูหลี่ชิเย่ถูกลู่ซื่อเม่าสั่งสอนได้อยู่แล้ว

“ไสหัวไปข้างๆ” ลู่ซื่อเม่าท่าทางข่มเหงผู้คน ร้องตวาดเสียงดัง และกล่าวน่าเกรงขามว่า “วันนี้ข้าจะจัดการสอบสวนเจ้าเดรัจฉานน้อยสักหน่อย!”

“รุ่นพี่ มีเรื่องอะไรหารือกันได้” จ้าวชิวสือยังคงไม่อ่อนข้อให้ กำลังความสามารถของเขาอยู่ในระดับกษัตราแท้จริง หากสู้กันจริงๆ ไม่เห็นจะด้อยกว่าลู่ซื่อเม่าตรงไหน

“หารือ มีอะไรต้องหารือ!” สองตาลู่ซื่อเม่าเบิกกว้างและร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้าจะให้เจ้าเดรัจฉานน้อยนี่สารภาพมาแต่โดยดี ชนเผ่าบาปของพวกเขามีแผนการร้ายอะไรในป่ารกร้างกันแน่ ถึงกับกล้าลอบทำร้ายราชันแท้จริงเซิ่นซวง!”

“ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้รับบาดเจ็บ?” พวกของจ้าวชิวสือต่างร้องเสียงหลงขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของลู่ซื่อเม่า แม้ว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาป แต่ว่า นักศึกษาจำนวนมากก็เลื่อมใสศรัทธาต่อราชันแท้จริงเซิ่นซวงอยู่ในใจ เมื่อได้ยินว่าผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรอย่างราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังได้รับบาดเจ็บ แล้วจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งได้อย่างไร

ลู่ซื่อเม่าคือผู้ที่รักใคร่ชื่นชมในราชันแท้จริงเซิ่นซวง ดังนั้น เมื่อเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับการได้รับบาดเจ็บของราชันแท้จริงเซิ่นซวง เขาถึงกับตกใจอย่างยิ่ง พลันนึกไปถึงหลี่ชิเย่ทันที โดยเอาเพลิงความโกรธทั้งหมดไปลงบนตัวของหลี่ชิเย่

เขาเข้าใจว่า จะต้องเป็นฝีมือพวกชนเผ่าบาปอย่างหลี่ชิเย่เล่นตุกติก ลอบทำร้ายราชันแท้จริงเซิ่นซวง จึงทำให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้รับบาดเจ็บ

“โง่เขลา” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เขาไปยังความมืดแล้วได้รับบาดเจ็บ แสดงว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนางยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นพอที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับความมืด”

“วาจาสามหาว” เดิมลู่ซื่อเม่าก็มีเพลิงความโกรธสุมเต็มอกอยู่แล้ว จังหวะที่จ้าวชิวสือกำลังเหม่อลอยจึงก้าวข้ามไป และบุกไปถึงข้างหน้าของหลี่ชิเย่ ร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “วันนี้หากเจ้าไม่สารภาพพูดออกมาแต่โดยดี ข้าก็จะถลกหนังของเจ้า เลาะเอ็นของเจ้า!”

“รุ่นพี่ลู่…” เมื่อจ้าวชิวสือได้สติกลับมา จึงรีบเร่งร้องเสียงดังขึ้นมา

แต่ทว่า ในขณะนี้ลู่ซื่อเม่าได้ลงมือแล้ว ยื่นมือคว้าไปที่รอยแผลสลักบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ เขาร้องกล่าวเสียงดังว่า “ฉีกความชั่วร้ายของชนเผ่าบาปให้ละเอียด!” เขาต้องการเกะเอารอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ออกมา

เขาต้องการอาศัยวิธีการโหดเหี้ยม ดึงเอารอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ออกมา เท่ากับลอกเอาหนังหัวออกมาชั้นหนึ่ง ช่างเป็นเรื่องที่เลือดไหลหยดลงเป็นทางไม่หยุด

หลี่ชิเย่ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญกับมือของลู่ซื่อเม่าที่คว้าเข้ามา เพียงยืนอยู่ตรงนั้นตามอารมณ์ ปล่อยให้ลู่ซื่อเม่าลงมือตามอำเภอใจ

“ระวัง…” จ้าวชิวสือร้องเสียงหลงขึ้นมา แต่ สายเกินไปแล้วเวลานี้ ปลายนิ้วมือของลู่ซื่อเม่าได้สัมผัสกับบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ปลายนิ้วของลู่ซื่อเม่าสัมผัสกับรอยประทับสลักที่อยู่ระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่นั้น ตัวของลู่ซื่อเม่าเหมือนหนึ่งถูกฟ้าผ่าอย่างนั้น ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ลู่ซื่อเม่าก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว

ในเวลานี้ ตัวของลู่ซื่อเม่าเสมือนถูกฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ผ่าเข้าร่างอย่างนั้น สีหน้าของเขาพลันขาวซีด ทุกคนยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“อ๊ากกก…” ในเวลานี้เอง เสียงร้องน่าเวทนาลู่ซื่อเม่าดังขึ้น ตามติดด้วยเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ด มองเห็นปลายนิ้วมือของลู่ซื่อเม่าปรากฎความมืดสายหนึ่งผุดขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น แขนทั้งแขนของเขาถึงกับถูกปกคลุมไปด้วยความมือ

ภายใต้สายตาของทุกคน แขนข้างหนึ่งของลู่ซื่อเม่าได้กลับกลายเป็นมือดำโดยพลัน คล้ายเป็นก้อนถ่านดำอย่างนั้น

“อ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากกก…” ลู่ซื่อเม่าร้องเสียงน่าเวทนาไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง ร่างของเขาสั่นเทาไปทั่วร่าง หน้าตาบิดเบี้ยว ความมืดได้เริ่มต้นจากท่อนแขนแล้วลามไปทั่วร่างของเขาโดยพลัน

ในเวลานี้ ภาพที่น่ากลัวปรากฏขึ้นมาแล้ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ร่างกายของลู่ซื่อเม่าถึงกับกลายเป็นความมืด ร่างทั้งร่างของเขาคล้ายถูกสาดด้วยน้ำหมึกอย่างนั้น

ก่อนหน้านั้น บนตัวของลู่ซื่อเม่ายังเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม นาทีนี้ประกายศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขาไร้ประโยชน์ ตรงกันข้าม ภายใต้การกลืนกินขงความมืด ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากบนตัวของเขาล้วนกลับกลายเป็นประกายความมืดแล้ว

ท่ามกลางเสียงร้องน่าเวทนาอ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากกกของลู่ซื่อเม่าที่ดังขึ้น มองเห็นร่างกายของลู่ซื่อเม่าถึงกับปรากฎเป็นเกล็ดสีดำมืดตึดตื๋อขึ้นมาทั่วทั้งตัว

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ทำเอาพวกของจ้าวชิวสือตกใจกันใหญ่ เมื่อมองเห็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเกิดขึ้นบนตัวของลู่ซื่อเม่า ต่างทยอยกันก้าวถอยหลังไป และออกห่างจากลู่ซื่อเม่าให้ไกล พวกเขาต่างกลัวว่าความมืดบนตัวของลู่ซื่อเม่าจะแพร่มาถึงตัว

จ้าวชิวสือรู้สึกตกใจยิ่งนัก รีบมองไปที่หลี่ชิเย่ แต่ว่าหลี่ชิเย่กลับปลอดภัยไม่ได้เป็นอะไร ส่งผลให้เขารู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา

แน่นอน จ้าวชิวสือไม่สามารถเข้าใจภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อยู่แล้ว

ลองนึกดู รอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่นั้น เกิดจากดวงตาแห่งความมืดทำให้บาดเจ็บแล้วเกิดเป็นรอยแผลความมืด พลังความมืดที่คงอยู่บริเวณบาดแผลนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แม้แต่ประกายศักดิ์สิทธิ์ของราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังทำให้บริสุทธิ์ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นแล้ว

จังหวะที่ลู่ซื่อเม่าคิดจะแกะรอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วนั้น หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปทำให้บริสุทธิ์ และสยบพลังความมืดที่อยู่บริเวณรอยประทับสลัก ด้วยการถ่ายทอดพลังความมืดเช่นนี้เข้าสู่ตัวของลู่ซื่อเม่าโดยตรง

ถ้าหากหลี่ชิเย่ต้องการจะทำให้พลังความมืดนี้บริสุทธิ์ก็ใช่เป็นเรื่องยาก เพียงแต่ขี้คร้านจะไปสนใจเท่านั้นเอง เวลานี้ลู่ซื่อเม่ารนหาที่ตายเอง เขาจึงถือโอกาสนำพาพลังความมืดนี้ออกไป

ลองนึกภาพดู ด้วยพลังที่ตื้นเขินของลู่ซื่อเม่าไหนเลยจะสยบพลังความมืดที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ไว้ได้ ต่อให้พลังความมืดนี้มีเพียงสายเดียวเท่านั้น ก็หาใช่สิ่งที่ลู่ซื่อเม่าสามารถจะไปสยบมันเอาไว้ได้

ดังนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ความมืดสายนี้ก็ได้ยึดครองร่างกายของลู่ซื่อเม่าเอาไว้

อ๊ากกก…เสียงร้องที่น่าเวทนาของลู่ซื่อเม่าดังก้องไปทั่วสถาบันศึกษา เสียงนั้นแหลมและรันทดยิ่ง ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น…” ในเวลานี้ มีคนกลุ่มหนึ่งได้รุดมายังที่นี่ คือเติ้งเหรินเซินนั่นเองที่นำพานักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์รีบรุดมายังที่นี่

พวกเขาต่างถูกทำให้ตกใจ เมื่อมองเห็นความมืดบนตัวของลู่ซื่อเม่าลอยขึ้นมา

“ผู้อาวุโสเติ้ง เร็ว รีบช่วยข้าเร็ว” เวลานี้ ลู่ซื่อเม่าร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมา ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น หลังของเขาถึงกับมีหนามกระดูกแต่ละอันงอกขึ้นมา โดยที่หนามกระดูกขาววับและละอันได้แทงทะลุหลังและเสื้อจนขาดออกมา ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง

“นี่ นี่ นี่มันเป็นบ้าอะไรกันนะเนี่ย…” ทุกคนต่างมองเห็นลู่ซื่อเม่าในเวลานี้ไม่เพียงตัวดำทั้งตัวเหมือนถูกสาดด้วยน้ำหมึก ทั้งยังมีหนามกระดูกงอกออกมาจากหลังอีก ทำให้ทุกคนมองดูด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง ผู้คนจำนวนมากทยอยกันก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าใช้วิชามารอะไร!” เวลานี้สายตาของเติ้งเหรินเซินตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ และร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา

“วิชามาร? มีวิชามารด้วยรึ?” หลี่ชิเย่ทำยักไหล่ และกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเติ้ง เจ้ารู้จักชนเผ่าบาปพวกเรา หรือว่าไม่เคยได้ยินตำนานเรื่องหนึ่งรึ? เพราะอะไรบริเวณระหว่างคิ้วชนเผ่าบาปพวกเราจึงมีรอยตราประทับสลัก? นั่นเป็นเพราะพลันที่พวกเราถือกำเนิดขึ้นมา ภายในร่างกายก็จะมีพลังความมืดสายหนึ่งเกิดตามมา…”

“…ขณะที่รอยประทับสลักที่ระหว่างคิ้วนี้ก็มีไว้เพื่อปิดผนึกพลังความมืดสายนี้ เวลานี้รุ่นพี่ลู่ได้แกะรอยประทับสลักของข้าออก เมื่อตราผนึกถูกทำลาย พลังความมืดจึงหนีออกมาทันที ละมุดเข้าไปในร่างกายของรุ่นพี่ลู่ ข้าสมควรขอบคุณรุ่นพี่ลู่ เป็นเขาที่ช่วยข้าเอาไว้ นับจากนี้เป็นต้นป ในร่างกายของข้าจะไม่มีพลังความมืดอีกต่อไป ตัวเบาไปทั้งตัว”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ รอยประทับสลักบนหน้าก็คล้ายดั่งตกสะเก็ดและแห้งหลุดร่วงลงมา

…………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *